ถก คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ข้อมูลพบอุบัติเหตุสูงขึ้น

วันที่ 17 มิ.ย. 2567 เวลา 18:13 น.

ขยายเวลาขายเหล้าเบียร์ อุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น สมศักดิ์ ถก คกก.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ย้ำจุดยืน ไม่สนับสนุนขยายเวลาขาย แต่ต้องเจ็บกันคนละเล็กละน้อย ดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด ขอให้ฟังเสียงส่วนใหญ่ ช่วงแรกฝ่ายไม่เห็นด้วยเยอะกว่า วันนี้ (17 มิ.ย.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยยืนยันว่า ให้ความสำคัญกับเครื่องมือการดำเนินงาน ก็คือ กฎหมาย หรือ กฎกระทรวง ซึ่งถ้าถึงเวลาที่ต้องทำ แต่ไม่ทำ ก็จะส่งผลกับงานส่วนรวม หากต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ก็ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย ที่กำหนดให้ทำกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับเรื่องแอลกอฮอล์ภายใน 2 ปีด้วย เรื่องการขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีจุดยืนอยู่แล้ว โดยต้องดูสถิติตัวเลข กฎหมาย เพราะต้องทำให้ได้ทุกมุม เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีผู้ได้รับผลกระทบ ดังนั้นจะพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายมากนัก แต่ยอมรับว่า ต้องเจ็บกันคนละเล็กละน้อย พร้อมย้ำว่า ไม่สนับสนุนเรื่องขยายเวลาขายสุรา และเรื่องนี้ไม่ได้จบที่กระทรวงสาธารณสุข เพราะมีร่างกฎหมายถึง 5 ฉบับ ที่ต้องพิจารณากันในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ นพ.ธงชัย  กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้รับทราบรายงานสรุปผลการขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งพบว่า มีผู้เสียชีวิตและอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลา 02.00-06.00 น. แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาว่า จะขยายเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่อื่นหรือไม่ รวมถึงยังได้มีการพิจารณาให้วันวิสาขบูชา งดดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันรณรงค์ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการติดตามกฎหมายอนุบัญญัติ ที่ค้าง 2 ฉบับ โดยต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมการชี้แจงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข จะพูดในภาพรวมเท่านั้น ส่วนเรื่องงบประมาณบัตรทอง ก็ทราบว่า เราได้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 9% ซึ่งก็ต้องดูว่า จะทำอย่างไรให้ทั่วถึงโรคภัยไข้เจ็บ และขยายการดูแลได้มากขึ้น เมื่อถามถึงการรับฟังความคิดเห็นการนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงแรกของการรับฟังความคิดเห็น คนที่เห็นว่า ไม่ควรนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด มีสูงกว่า แต่ยังไม่ทราบผลการรับฟังความคิดเห็นล่าสุด พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการรณรงค์รับฟังความคิดเห็นแล้ว เพราะจะได้ไม่เกิดความขัดแย้ง โดยจะรอฟังผลสรุปความคิดเห็นอย่างเดียว เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ของแต่ละฝ่าย จึงขอให้ฟังเสียงส่วนใหญ่