สั่งเด้ง 5 ตร. น้ำสัตหีบ เซ่นเรือของกลางหาย
วันที่ 13 มิ.ย. 2567 เวลา 10:13 น.
จเรตำรวจสั่งเด้ง 5 ตำรวจน้ำสัตหีบ ช่วยราชการ บช.ก. เซ่นปมเรือของกลางในคดีน้ำมันเถื่อนหาย 3 ลำ บรรทุกน้ำมันเถื่อนกว่า 3 แสนลิตร วันนี้ (13 มิ.ย.67) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งย้าย ผกก. สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ และลูกน้อง รวม 5 นาย มาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจสอบบสวนกลาง (บช.ก.) เซ่นปมเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหายไปจากการควบคุมจำนวน 3 ลำ จากทั้งหมด 5 ลำ สำหรับเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย 1. เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 7 คน 2. เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน 3. เรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 5 คน คดีนี้ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามคดีอาชากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันดำเนินการสืบสวนจับกุม และยึดไว้เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 และส่งมอบหมายให้สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ เป็นหน่วยเก็บรักษาของกลาง ณ ท่าเทียบเรือสัตหีบ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 67 เป็นต้นมา ในระหว่างการเก็บรักษาของกลาง ได้สั่งการให้สถานีตำรวจน้ำสัตหีบจัดเวรยามดูแลของกลางให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 24 ชม. และรายงานให้ทราบเป็นประจำทุกวันและให้ระมัดระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง และน้ำเข้าเรือที่อาจทำให้ของกลางเกิดความเสียหาย จึงจำเป็นต้องมีคนเรืออยู่ประจำเครื่องเรือแต่ละลำอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เรือเกิดความเสียหาย ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 18.00 น. มีรายงานสภาพอากาศคลื่นลมแรง ทะเลมีคลื่นสูง สถานีตำรวจน้ำสัตหีบได้สั่งการให้เรือของกลางจำนวน 5 ลำ ที่มีน้ำหนักมากออกลอยลำ จอดทอดสมอห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบไประยะ 100 ม. เพื่อลดผลกระทบจากลักษณะอากาศ ซึ่งอาจทำให้เรือของกลางได้รับความเสียหาย โดยวานนี้ (11มิ.ย.67) เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือเปิดไฟ แต่ต่อมาช่วงเวลา 22.00 น. เรือทั้งหมดดับไฟ กระทั่งเช้าวันที่ 12 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 06.00 น. เวรยามพบว่าเรือของกลาง จอดทอดสมอห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบไประยะ 100 ม. เหลืออยู่ 2 ลำ จากเรือทั้งหมดที่จอดรวมกันอยู่ 5 ลำ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทันที และได้มีคำสั่งให้ช่วยกันสกัดกั้นเรือของกลาง ตรวจสอบทั้งทางอากาศและทางน้ำ แต่ยังไม่พบเรือที่หายไป ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะฯ เพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น ขณะนี้คาดว่าเรือของกลางในคดีน้ำมันเถื่อน ทั้ง 3 ลำ แล่นออกจากน่านน้ำไทยไปแล้ว