อุบัติเหตุสลด เด็กชาย 12 ขวบ ขี่รถ จยย. ตกท้องนาคอหักเสียชีวิต ไม่ได้หักหลบสุนัข มีหลักฐานเด็ดรถกระบะถอยตัดหน้า ชนแล้วหนี

วันที่ 4 มิ.ย. 2567 เวลา 15:17 น.

จากเหตการณ์ที่ เด็กชายวัย 12 ขวบ อาสาปู่ไปซื้อของให้ลูกค้าที่มาตกปลาที่บ่อ ก่อนเกิดอุบัติเหตุสลด คาดว่าขี่รถจักรยานยนต์หลบสุนัข จนเสียหลักตกท้องนา ทำให้คอหักเสียชีวิต ภายในซอยวัดเซนต์ล็อค หมู่ 4 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (4 มิ.ย. 67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.อภิญญา โพธิสิน  อายุ 34 ปี ป้าของเด็กชายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว เนื่องจากครอบครัวสงสัยการเสียชีวิตของน้องว่าไม่ใช่อุบัติเหตุจากการขี่รถหักหลบสุนัข โดยทางครอบครัวได้ไปค้นหาหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะเห็นว่ามีรถยนต์กระบะ สีดำ ถอยออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงชนดังสนั่น โดยในภาพยังเห็นรถจักรยานยนต์ของน้องลอยกระเด็นตกลงไปในท้องนา หลังเสียงชนไม่นานนัก อย่างไรก็ตาม วันนี้ทาง ร.ต.ท.ณัฐพงษ์ วีระพันธ์  รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เจ้าของคดีเดินทางมายังจุดเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง พบว่าบริเวณที่น้องเสียชีวิต ญาติได้นำเอาอาหารคาวหวาน เครื่องเซ่น เพื่อมาเชิญดวงวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ซึ่งหลังดูภาพจากกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปยังบ้านหลังที่มีรถยนต์กระบะถอยออกมา พบเจ้าของบ้านอยู่ในบ้าน แต่ไม่พบรถยนต์คันที่คาดว่าจะถอยหลังมาชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจซักถาม ทราบว่าลูกชายของเจ้าของบ้าน ขับรถออกไปตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่กลับเข้ามา และไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งพ่อให้ติดต่อลูกชาย พาไปสถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำ ซึ่งหากไม่มาจะมีการออกหมายเรียก และหมายจับต่อไปตามขั้นตอน หากไม่มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ น.ส.อภิญญา เปิดเผยว่า ตอนแรกทางครอบครัวน้องก็ไม่ติดใจ คิดว่าน้องประสบอุบัติเหตุล้มเองจนเสียชีวิต พอมาหลายวันเข้า มาดูสภาพรถจักรยานยนต์ที่น้องขี่ ก็พบความผิดปกติ เห็นว่าน้องร่วงตกท้องนาไปทางขวา แต่สภาพรถจักรยานยนต์เหมือนถูกชนจากทางซ้าย จนตะกร้าหน้ารถพังยุบ ประกอบกับเด็ก ๆ ในบริเวณนั้นได้ยินเสียงขณะเกิดเหตุ ว่ามีเสียงอะไรชนกัน ตนเองจึงหาหลักฐานก่อนจะมาเจอภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เผยให้เห็นรถกระบะถอยออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะมาชนกับหลานของตน จึงอยากให้คนขับรถออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งหากบอกกันตั้งแต่วันแรก ครอบครัวของตนเองก็จะไม่ติดใจอะไรขนาดนี้