อาชญากรระดับโลก ตั้งฐานฟอกเงินในไทย กองปราบปรามร่วม FBI ตามยึดทรัพย์
วันที่ 1 มิ.ย. 2567 เวลา 17:23 น.
กองปราบปราม จับมือ FBI ตามยึดทรัพย์อาชญากรข้ามชาติ แฮ็กคอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง 190 ประเทศทั่วโลก ตั้งฐานฟอกเงินในไทย ยึดทรัพย์ได้กว่าพันล้าน รวบตัวการใหญ่ชาวจีนได้ที่สิงคโปร์ อาชญากรระดับโลก วันนี้(1 มิ.ย.2567) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม FBI ทลายองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก หลังเหิมเกริมก่อเหตุโจมตีระบบองค์การใหญ่ เรียกค่าไถ่ พ่วงแฮ็กระบบสวมรอยรับเงินสวัสดิการรัฐเสียหายกว่า 190 ประเทศ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล รอง ผกก.2 บก.ป. พร้อมด้วยตำรวจ บก.ป., บก.ปอท. ร่วมกับ Federal Bureau of Investigation (FBI) โดย MR.MIKE CHAI FBI attache ประจำประเทศไทย เข้าตรวจค้น 4 จุดในพื้นที่ จ.ชลบุรี ประกอบด้วย บ้านหลังหนึ่ง ถ.พระตำหนัก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และห้องพักอีก 3 จุด ในคอนโดมิเนียม พื้นที่ ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมกันตรวจยึดของกลาง 1. เงินสด สกุลเงินไทยและต่างประเทศ รวมมูลค่ากว่า 7.5 ล้านบาท 2. นาฬิกาหรู จำนวน 13 เรือน (โดยมี นาฬิกา AUDEMARS PIGUET 3 เรือน ตามMLAT) รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท 3. เครื่องประดับ จำนวน 23 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท 4. รถยนต์ BMW X7 M50d สีดำ จำนวน 1 คัน 5. โฉนดที่ดิน เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ และสัญญาการซื้อขาย ที่ดิน สถานที่ และคอนโด 6. บัญชีธนาคารของผู้ต้องหา (นาย Yun He) และ บริษัท Spicy Code 7. อุปกรณ์บันทึกข้อมูล Flash Drive ที่เชื่อว่าบันทึกข้อมูลคีย์การเข้ารหัส หรือรหัสผ่านการเข้ารหัส และอื่นๆ สืบเนื่องจากทางการสหรัฐอเมริกา ขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องการดำเนินการทางอาญา เพื่อจับกุมและทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ โดยทำหนังสือส่งผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลาง ก่อนจะมีการมอบหมายต่อมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระบุขอให้ประเทศไทยตรวจสอบและหาพยานหลักฐานของนาย Yun He พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหา อาชญากรออนไลน์ระดับชาติ โดยเป็นผู้ต้องหาในคดี ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการป้องกัน ฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และฟอกเงินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาแจ้งว่า ปฏิบัติการนี้เป็นการทำงานร่วมมือในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและสิงคโปร์ ในการกวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งใช้อุปกรณ์ติดตั้งมัลแวร์ ร่วมกับเครื่องมือปกปิดที่อยู่ของเครือข่ายอาชญากร ซึ่งเรียกกันว่า 911 S5 ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้คือนาย Yun He พร้อมพวกคนจีน โดยเฉพาะนาย Yun He เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลระบบหลักของ 911 S5 ทั้งหมด ขณะที่พวกที่เหลือทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ธุรกรรมทางเงิน และตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการฟอกเงิน จำนวน 3 บริษัท อยู่ในประเทศไทย จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายนี้ได้ทำการแฮ็ก IP Address ของคอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาล และยังมีการโกงเงินจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอีกจำนวนมาก ด้วยการแฮ็กเข้าคอมพิวเตอร์ของชาวอเมริกัน และทำเรื่องขอความช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ แต่เมื่อหน่วยงานรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือ กลับเป็นการโอนเข้าบัญชีของอาชญากร โดยที่บุคคลชาวอเมริกันคนนั้นกลับไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังแฮ็กเข้าไปขโมยเงิน เหรียญคริปโต โจมตีทางไซเบอร์ เรียกค่าไถ่ (Ransomeware) ด้วยการปิดกั้นการทำงานขององค์กรใหญ่ และเรียกค่าไถ่แลกกับการให้ระบบกลับมาใช้งานได้ดังเดิม และยังใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์จากภาพอนาจารของเด็ก รวมไปถึงการขู่วางระเบิด สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนอีกด้วย ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้ ได้ฟอกเงินที่ได้จากกิจการ ได้กำไรหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐจากการบริการผิดกฎหมายและนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ ทรัพย์สินอื่น ๆ ในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย จากข้อมูลข้างต้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มอบหมายให้ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ทำการตรวจค้นที่อยู่อาศัย ยานพาหนะของนาย Yun He พร้อมทั้ง ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินตามรายการที่ปรากฏตามหนังสือขอความร่วมมือ รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ต่อมาตำรวจ กก.2 บก.ป. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ซักถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องและตรวจยึดทรัพย์สินตามบันทึกร้องขอ โดยได้ทรัพย์สินตามรายการข้างต้น ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินการตามขั้นตอน และผู้ต้องหายังนำทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาแปรสภาพทรัพย์ในประเทศไทย เป็นลักษณะอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทต่าง ๆ ซึ่งในส่วนนี้ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2567 ได้รับรายงานว่าตำรวจของประเทศสิงคโปร และเจ้าหน้าที่ FBI ได้ร่วมกันจับกุม Mr. Yun He ที่ประเทศสิงคโปร์ ไว้แล้ว