ปลดล็อกกัญชาค่ารักษาพุ่งจาก 3 พันล้าน เป็น 2 หมื่นล้าน

วันที่ 1 มิ.ย. 2567 เวลา 15:27 น.

สมศักดิ์ รับฟังความเห็นกัญชาจากกลุ่มแพทย์ที่หนุนกลับเป็นยาเสพติด หลังพบเด็กเข้าถึงง่าย-ไอคิวลด-อุบัติเหตุเพิ่ม ชี้หลังปลดล็อกจากยาเสพติด ทำต้นทุนค่ารักษาพุ่งจาก 3 พันล้าน เป็น 2 หมื่นล้าน แย้มรัฐบาลตัดสินใจง่ายขึ้น วันนี้ (1 มิ.ย.67) ถุนายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นนักวิชาการ สมาคม ราชวิทยาลัย และเครือข่ายภาคประชาสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหากัญชาในสังคมไทย เนื่องจาก รัฐบาลมีแนวทางนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด แต่การจะประกาศยาเสพติดประเภทที่ 5 เพิ่มเติมจากสิ่งที่มีอยู่ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตนจึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เดินทางมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งในสมาคมที่เดินทางมาวันนี้ ก็มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 30,000 คน จึงถือได้ว่า เป็นพื้นที่รับฟังความคิดเห็น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับฟังข้อมูลเรื่องกัญชา ต้องยอมรับว่า น่ากลัวมากสำหรับเด็กและเยาวชน เพราะจากข้อมูลของอเมริกาพบว่า ไอคิวของเด็กที่ใช้กัญชา ลดลงไป 8-9 หน่วย รวมถึงหลังปลดล็อกกัญชา ก็ทำให้ต้นทุนการรักษาด้วยกัญชาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาประชาชน อย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ โดยรัฐบาลพยายามควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ก็ต้องมารักษาโรคเกี่ยวกับกัญชาที่สูงมากขึ้น จากเดิมต้นทุน 3,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 20,000 ล้านบาทต่อปี จึงถือเป็นเรื่องที่น่าห่วง ซึ่งสิ่งที่แนะนำมาทั้งหมด จะทำให้รัฐบาล ตัดสินใจง่ายขึ้น ถ้าวันนี้ไม่ยอมให้กัญชาเป็นยาเสพติด ก็ต้องเพิ่มเงินค่ารักษามาให้ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองด้วย อาจมีข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนั้น ต้องให้เวลาการตกผลึกด้วย แต่คงไม่ช้า เพราะกรณียาบ้าในสัปดาห์หน้า ก็จะรับฟังความคิดเห็นให้จบในวันที่ 4 มิ.ย.67 จากนั้น ก็จะดำเนินการเรื่องกัญชาต่อ ผู้สื่ข่าวถามถึงแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหากนำกัญชาเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการเยียวยา ในที่ประชุมก็ได้พูดถึงด้วย แต่จะสามารถมองได้แค่ไหน ก็ต้องพิจารณาในรายละเอียดต่อไป เพราะเราไม่มีเงินมากมาย กระทรวงสาธารณสุขยังเป็นหนี้บุคลากรทางการแพทย์ ในช่วงโควิดอยู่ ดังนั้น จะให้เป็นหนี้อีก ก็ตัดสินใจไม่ได้ แต่ตนขอยืนยันว่า จะให้เวลาการปรับตัว พร้อมขอย้ำว่า ไม่ห้ามทางการแพทย์ ขณะที่ ผู้แทนกลุ่ม YNAC กล่าวว่า ที่ผ่านมา ประชาชนยังมีความรู้เรื่องกัญชาน้อย จึงเกิดปัญหาสังคม ควรให้ความรู้ที่ถูกต้องกับกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะต้องยอมรับว่า มีบางส่วนที่เข้าใจผิดว่า กัญชาถูกกฎหมายแล้ว จะทำอะไรก็ได้ ทำให้เยาวชนเข้าใจว่า เป็นสิ่งถูกกฎหมาย และสามารถใช้ได้ รวมถึงจากการสำรวจ ชุมชนสามารถปลูกได้ ทำให้เข้าใจว่า สามารถกินได้ ผู้ปกครอง จึงผสมใส่อาหารให้เด็กไปกินที่โรงเรียน กลุ่ม YNAC จึงอยากให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด  เพราะกว่า พ.ร.บ.กัญชา จะออกมาควบคุมต้องใช้เวลาเป็นปี รัฐบาลควรแก้ไขเร่งด่วน หลังมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ทางการแพทย์