ฮาย อาภาพร รับบทแกนนำ พากลุ่มผู้เสียหายนับ 10 คน แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ หลังถูกมิจฉาชีพตุ๋นลงทุนสารพัดวิธี เสียหายรวมกว่า 70 ล้านบาท
วันที่ 31 พ.ค. 2567 เวลา 13:59 น.
วันนี้ (31 พ.ค. 67) ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ นำทีมผู้เสียหาย กว่า 10 คนเข้ามาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกสารพัดสูญเงินหลายสิบล้าน ฮาย อาภาพร กล่าวว่า ผู้เสียหายคือน้องสาว สาเหตุจากซื้อผ้าเย็นในแอปพลิเคชั่นชอปปิงออนไลน์ชื่อดัง จากนั้นมีบุคคลปริศนาโทรเข้ามา ให้เข้าร่วมกิจกรรม เนื่องจากมีคะแนนการซื้อจำนวนมาก หากเข้าร่วมจะได้เครื่องนวดไฟฟ้า ตู้เย็นกดน้ำฟรี แต่ต้องกดร่วมกิจกรรมในอีกแอปพลิเคชั่นหนึ่งเพื่อยืนยันตัวตน แต่เมื่อเข้าไปในแอพพลิเคชั่นดังกล่าวที่กลุ่มมิจฉาชีพสร้างขึ้น พบว่ามีกิจกรรมมากมายที่สามารถสร้างรายได้ได้ เช่น แค่กดไลก์ก็จะมีเงินเข้า 20 บาท แต่ถ้าอยากได้เงินเยอะขึ้นต้องเสียค่าสมัครเริ่มตั้งแต่ 150 บาท ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วแต่ระดับ ซึ่งน้องสาวโอนเพื่อเพิ่มระดับสมาชิกและร่วมกิจกรรมต่างๆ ถึง 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.4 ล้านบาท แต่เมื่อ จะถอนเงินออกจากกิจกรรมกลับไม่สามารถถอนออกมาได้ อีกทั้งมิจฉาชีพอย่างชักชวนให้ลงทุนต่อจึงมั่นใจว่าตัวเองถูกหลอก ทั้งนี้สาเหตุที่ลงทุนไปถึงห้าครั้งเนื่องจากว่าหนึ่งถึงสามครั้งมีผลกระทบจริง จึงอัดเงินเข้าไปจนมีความเสียหาย 1.4 ล้านบาท โดยกิจกรรมที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้หลอกลวงนั้นมีหลากหลายรูปแบบหนึ่งในนั้นมีทั้งการหลอกให้กับมูลนิธิชื่อดัง ซึ่งเป็นการนำชื่อมาแอบอ้าง โดยอ้างว่าทำบุญกับมูลนิธินี้ จะได้ผลตอบแทน 10% หรือ 20% แล้วแต่โปรโมชั่น ขณะที่ผู้เสียหายรายอื่นที่มาในวันนี้ ต่างก็ถูกกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งมีทั้งกลุ่มเดียวกัน และมิจฉาชีพกลุ่มอื่น หลอกให้ทำทุรกรรมทางการเงิน หรือร่วมกิจกรรมแลกกับผลตอบแทนมหาศาล แต่สุดท้ายกลับถูกหลอก ตนจึงขอเป็นแกนนำพาผู้เสียหายแต่ละคนเข้ามาแจ้งความที่ตำรวจไซเบอร์หวังให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวคนร้าย และนำเงินค่าเสียหายบางส่วนมาคืน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่าผู้เสียหายมีหลายพื้นที่ และหลายรูปแบบมีทั้งถูกหลอกทำงาน หลอกลงทุน มูลค่ารวมกว่า 70 ล้านบาท โดยต่อจากนี้ จะทำการตรวจเช็กข้อมูลและดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป