หลวงพ่อไถ่มอเตอร์ไซค์คืนโยม ตอบแทนที่ทำบุญใส่บาตรทุกวัน
วันที่ 31 พ.ค. 2567 เวลา 07:35 น.
ผลบุญเห็นผล! หลวงพ่อไถ่มอเตอร์ไซค์คืนโยมยากไร้ ถูกตัดน้ำไฟ จนต้องเอาไปจำนำ ตอบแทนคุณค่าข้าว ค่าน้ำ ที่ใส่บาตรให้ได้ฉันตลอดมา 31 พ.ค. 67 จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “หลวงพ่อมหาน้อย” โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้นำเรื่องราวดีดี มาฝากโยมทุกคน หลวงพ่อได้ไถ่คืนรถมอเตอร์ไซค์ คืนให้โยม เพื่อทดแทนคุณค่าข้าวค่าน้ำที่ใส่บาตรให้ได้ฉันตลอดมา #หลวงพ่อมหาน้อย และมีคลิปขณะที่หลวงพ่อกำลังสนทนาเรื่องการจะปิดหนี้รถจักรยานยนต์ของโยมคนหนึ่ง ที่นำไปจำนำไว้เพื่อจะไถ่ถอนคืนให้กับโยมคนดังกล่าว เพื่อตอบแทนที่ครอบครัวทำบุญใส่บาตรทุกวัน แม้ฐานะจะยากจน จากนั้นก็มีคลิปขณะที่หลวงพ่อให้คนที่วัดนำรถจักรยานยนต์ ที่จ่ายเงินปิดหนี้ไถ่คืนไปส่งให้กับโยมถึงที่บ้าน เป็นการเซอร์ไพรส์โยม ทำเอาโยมสองแม่ลูกถึงกับน้ำตาไหลก้มกราบเมื่อเห็นรถ จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปที่สวนธรรมวารี อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้พบกับพระมหานรินทร์เทพ นรินทร์โท หรือ (หลวงพ่อมหาน้อย) เจ้าอาวาสสวนธรรมวารี ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานที่ผ่านมา มีโยมผู้หญิงเข้ามาหาที่วัดพร้อมกับเด็กอีก 3 คน มาบอกว่า เป็นลูกสาวของยายเก้า หลวงพ่อก็จำได้ทันที เพราะว่าคุณยาย อยู่บ้านใกล้วัดและชอบทำบุญใส่บาตรให้หลวงพ่อ ตั้งแต่หลวงพ่อเข้ามาตั้งวัดใหม่ ๆ ครอบครัวนี้ชอบทำบุญใส่บาตรมาก จะมีคุณตามาใส่ในทุกเช้า แต่คุณตาท่านเสียชีวิตแล้ว ยายก็ยังใส่อยู่ทุกวัน เขาเข้ามาบอกว่า ได้เอารถจักรยานยนต์ไปจำนำไว้หมื่นกว่าบาทบวกดอกเบี้ยแล้ว ก็จะต้องไถ่ถอนที่เป็นจำนวนเงิน 18,250 บาท และไฟฟ้าที่บ้านก็ถูกตัดเพราะค้าค่าไฟ 3 เดือน หลวงพ่อก็เห็นใจและสงสาร คิดว่าพอที่จะช่วยได้ก็อยากช่วยเหลือ จึงตัดสินใจติดต่อและประสานไปทางคนที่รับจำนำรถจะชำระเงินที่นำไปจำนำให้ แล้วให้นำรถจักรยานยนต์มาส่งคืนให้ เพราะเข้าใจในความจำเป็นและความเดือดร้อน หลวงพ่อก็ไม่ได้หวังอะไร เพียงแต่เห็นเขาทุกข์ เราก็อยากแบ่งเบาทุกข์นั้น ทั้งอยากตอบแทนที่โยมครอบครัวนี้ ทำบุญใส่บาตรมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมาหลวงพ่อก็ช่วยชาวบ้านเป็นประจำ มีทั้งออกสื่อและไม่ออกสื่อ ก็แล้วแต่ก็จะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ตามความเหมาะสม ขณะที่ บนางเก้า ลาพูน อายุ 76 ปี บอกว่า ตอนนี้สายตาพร่ามัวมองเกือบไม่เห็นแล้ว ทุกวันก็ทำได้แค่เหลาก้านมะพร้าวทำไม้กวาดขาย ส่วนรถจักรยานยนต์ลูกสาวเป็นคนนำไปจำนำ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าไฟที่ค้างไว้ 3 เดือน และใช้จ่ายในครอบครัว แต่ตนไม่รู้ว่าลูกสาวจำนำเท่าไร มารู้อีกทีตอนที่หลวงพ่อมหาน้อยนำรถจักรยานยนต์มาส่งที่บ้าน พร้อมบอกว่าได้ไถ่รถคืนแล้ว ก็รู้สึกดีใจ และซาบซึ้งใจมากที่หลวงพ่อเมตตาไถ่ถอนรถคืนให้ เพราะลำพังครอบครัวไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปไถ่ถอนคืนได้