ฉุนตัดหญ้าเสียงดัง ไลฟ์ถือมีดฟันหน้าลุงดับ

วันที่ 30 พ.ค. 2567 เวลา 20:23 น.

หนุ่ม 33 ฉุนข้างบ้านตัดหญ้าเสียงดังไลฟ์ไม่ได้ ถือมีดฟันหน้าลุง 55 ดิ้นทุรนทุรายในไลฟ์ ก่อนเสียชีวิต วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 พ.ต.ท.ไพฑูรย์ อุ้ยปะโค สว.(สอบสวน) สภ.ไชยวาน ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.3 บ.คำบอน ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลไชยวาน รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณสวนข้างบ้านพบศพนายสดใส อายุ 55 ปี สภาพนอนหงาย มีเครื่องตัดหญ้าที่สะพายอยู่ตกข้างลำตัวด้านขวา มีบาดแผลถูกของแข็งและของมีคมฟันที่บริเวณใบหน้า ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายกิตติชัย อายุ 33 ปี หลังก่อเหตุได้กลับบ้านพักตนเองที่อยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจไปถึงยินยอมให้จับกุมแต่โดยดี ก่อนนำตัวพร้อมจอบของกลางมาที่โรงพัก พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมารับจ้างตัดหญ้าที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่ติดกัน ผู้ก่อเหตุเป็นคนชอบเล่นโซเชียล ชอบไลฟ์สดในชีวิตประจำวัน เรื่องราวความเชื่อทางศาสนา เรื่องบาปบุญคุณโทษ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนเกิดเหตุประมาณ 10.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ตั้งกล้องไลฟ์สดอยู่หน้าบ้าน ไลฟ์ไปได้ประมาณ 13 นาที ท้ายคลิปมีเสียงเครื่องตัดหญ้าดังเข้ามาในคลิป ก่อนที่จะหยุดไลฟ์สด จากนั้นผู้ก่อเหตุ ได้เดินมาที่บ้านเกิดเหตุ บอกให้ผู้ตายหยุดตัดหญ้า เนื่องจากเสียงดังรบกวนการไลฟ์สดของตนเอง มีการโต้เถียงกันไปมาอยู่นาน จนกระทั่งเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดผู้ก่อเหตุได้บันทึกคลิปวีดีโอเอาไว้ทั้งหมด จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ต่อมาผู้ตายได้สตาร์ตเครื่องตัดหญ้าและตัดหญ้าอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุได้ใช้บันไดปีนข้ามกำแพงเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้ตาย หลังก่อเหตุยังมีการไลฟ์สดเหตุภาพผู้ตายดิ้นทุรนทุรายอยู่ที่พื้น และบอกให้คนอื่นเรียกตำรวจมาจับตัวเองที่บ้าน เบื้องต้นผู้ต้องให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยใช้ด้ามจอบตีผู้ตาย แต่จากการตรวจสอบพบว่าบาดแผลเกิดจากของมีคม จึงทำการตรวจยึดมีดพร้าภายในบ้านมาตรวจสอบ ซึ่งตรงกับร่องรอยที่ใบหน้าผู้ตาย และรอยขาดที่หมวกของผู้ตาย      เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง และจากการตรวจสอบพบอีกว่า ผู้ก่อเหตุเคยต้องคดีอาวุธปืน และคดียาเสพติด เพิ่งจะกลับมาที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน อาศัยอยู่บ้านเพียงคนเดียว เนื่องจากยายที่อายุมากและป่วย ญาติผู้ก่อเหตุได้พาไปอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมรุนแรง มักจะมีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านทั่วไป จนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน