เฝ้าระวังไข้หวัดนก สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อจากโคนม เป็นรายที่ 2
วันที่ 26 พ.ค. 2567 เวลา 12:05 น.
เฝ้าระวังไข้หวัดนก H5N1 สหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อจากโคนม เป็นรายที่ 2 กรมควบคุมโรคย้ำไทยเสี่ยงต่ำ ไม่มีการนำเข้าโคนมจากสหรัฐฯ แต่ต้องเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถแพร่เชื้อไปยังคนได้ วันนี้ (26 พ.ค.67) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 ซึ่งคาดว่าติดเชื้อจากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่งของโคนมในฟาร์มที่รัฐมิชิแกน นับเป็นรายที่ 2 ของสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.67 พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกจากโคนมเป็นรายแรกของประเทศ ที่รัฐเท็กซัส ถึงแม้จะพบได้ยาก แต่ถือเป็นกรณีแรกที่มีแนวโน้มว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสามารถแพร่เชื้อไปยังคนได้ จึงจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์ไข้หวัดนกในประเทศไทย พบการระบาดครั้งสุดท้ายในคนเมื่อปี 2547 หลังจากนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่องทั้งในคน สัตว์ และสัตว์ป่า รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้จากการประสานงานกับกรมปศุสัตว์ทราบว่า ประเทศไทยไม่มีการนำเข้าโคนมจากสหรัฐอเมริกา จึงประเมินได้ว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดนกจากสถานการณ์ดังกล่าวในระดับต่ำ นายแพทย์ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย กรมควบคุมโรค มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการดังนี้ 1) กรมควบคุมโรค มีความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และศูนย์ป้องกันควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา เพื่อเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในคนและสัตว์ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง 2) ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค กรมควบคุมโรค เพื่อพิจารณามาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 3) ประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องความร่วมมือการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว (One health) เพื่อหารือและเตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โรคอุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำต่อไป ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านของไทบยังมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในคนและสัตว์อย่างต่อเนื่อง กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำให้ประชาชนมีการป้องกันตนเอง ดังนี้ 1) หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วยหรือตาย 2) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาดโดยเฉพาะหลังสัมผัสกับสัตว์ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก ขณะใกล้ชิดกับสัตว์ 3) หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ใกล้บ้านทันที และสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด 4) ห้ามนำสัตว์ปีกป่วยตายมาปรุงอาหารเด็ดขาด 5) การรับประทานเนื้อสัตว์ปีกและไข่ต้องปรุงสุกสะอาด 6) หากมีอาการคล้ายไข้หวัด ได้แก่ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย หรือมีตาแดงอักเสบ หลังสัมผัสกับสัตว์หรือสิ่งคัดหลั่งของสัตว์ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกับแจ้งประวัติการสัมผัสสัตว์ให้แพทย์ทราบ โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค