วอนหยุดด้อยค่าข้าวไทย

วันที่ 21 พ.ค. 2567 เวลา 11:24 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลัง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสอบข้าวสารค้างโกดัง 10 ปี ไม่มีสารพิษเจือปน สามารถรับประทานได้ คำถามคือจากนี้ไปรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไรต่อ เรื่องนี้คนที่สื่อต้องการให้แสดงความคิดเห็นมากที่สุด คงเป็นตัว ท่านนายกรัฐมนตรี ส่วน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งวันนี้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี บอกให้มูฟออนได้แล้ว อย่าไปด้อยค่า ข้าวก็คือข้าว เอาเวลาไปโฟกัสเศรษฐกิจดีกว่า ย้อนไปดูโครงการรับจำนำข้าว ครั้งนั้นรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดรับจำนำในราคาตันละ 15,000-20,000 บาท ตามค่าความชื้น เปิดรับจำนำไป 5 รอบ ตั้งแต่ปี 2554-2557 รวม 54.35 ล้านตัน วงเงิน 857,000 ล้านบาท เดือนเมษายนปี 2557 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการ จากนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อดำเนินการระบายข้าวเหลือในโกดัง และปี  2560 ระบายข้าวในคลังไปแล้วมากกว่า 50% เหลืออีกประมาณ 200,000 ตัน กระทั่ง ปี 2564 องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. รับผิดชอบระบายข้าวอย่างต่อเนื่องจนถึง 2565 และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงพื้นที่ไปดูข้าวตกค้าง ที่ส่งมอบไม่เรียบร้อย ข้าวหอมมะลิรวม 15,013 ตัน ที่ 2 โกดัง ในจังหวัดสุรินทร์ มูลค่า 300 ล้านบาท นำมาสู่การชิม การทดสอบคุณภาพข้าวและเตรียมเปิดประมูลในปลายเดือนนี้ เพื่อนำไปสู่การขายไปยังตลาดแอฟริกา หรือไม่อย่างไร ด้าน นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค เตรียมหารือ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอให้ตรวจสอบคุณภาพข้าว 10 ปี ใหม่อีกครั้ง โดยครั้งต่อไปขอให้ตนเป็นตัวแทนของผู้บริโภค เข้าไปสุ่มเก็บตัวอย่างข้าวที่โกดังด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นข้าวค้างโกดัง 10 ปี จริง สำหรับผลการตรวจจากแล็บของ กรมวิทย์ฯ เป็นผลที่เชื่อถือได้ แต่ติดที่การเก็บตัวอย่างไปสุ่มตรวจ ยังไม่มีการเปิดข้อมูลต่อผู้บริโภค