รวบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจเชียงใหม่

วันที่ 18 พ.ค. 2567 เวลา 15:58 น.

สืบนครบาล รวบ "สันหนองเสือ" บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจเชียงใหม่ หลอกพัสดุผิดกฎหมายให้โอนเงินตรวจสอบ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.สั่งการให้ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส. นำโดย พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 3 จับกุม นายรังสรรค์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหา 4 หมายจับ หลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางมาทำธุระในท้องที่เขตราชเทวี ชุดจับกุมจึงได้สืบสวนติดตามจับกุมเอาไว้ได้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม ผู้เสียหายได้รับแจ้งว่ามีพัสดุตีกลับ ตกค้างที่กรมศุลกากร ตรวจพบ สมุดเดินทาง และบัตรATM ซุกซ่อนในกล่องพัสดุ ต้องทำการตรวจสอบ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จากนั้นมีมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจติดต่อมาหา ให้ผู้เสียหายพูดคุยทางไลน์ แอบอ้างชื่อ พ.ต.ต.สราวุฒิ คละไฮ แจ้งว่ามีคดีฟอกเงิน พบเส้นการเงินสัมพันธ์กับผู้เสียหาย มิจฉาชีพ ส่งบัตรประจำตัว พร้อมหมายศาล มาทางไลน์ให้ผู้เสียหายดู ต้องทำการโอนเงิน ให้ ปปง.ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ 20 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียกว่า 7.3 ล้านบาท เมื่อรู้ว่าถูกหลอกได้เข้าแจ้งความ ที่ สน.ท่าข้าม กระทั่งสืบทราบว่า บัญชีปลายทางชื่อ ของ นายกันตพัฒน์ อายุ29ปี (ควบคุมตัวแล้ว) และนายรังสรรค์  ในชั้นการจับกุม ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และเปิดบัญชีให้กลุ่มนายทุนที่รู้จักกัน เพราะตกงานจากสถานการณ์โควิดในปี2563 ทำให้ขัดสนค่าเช่าบ้าน เมื่อมีกลุ่มนายทุนในชุมชนมาเสนอเงื่อนไขว่า หากขายบัญชีธนาคาร พร้อมซิมโทรศัพท์มือถือ 5 ซิม นายทุนจะชำระค่าเช่าบ้านให้ ด้วยเงินเพียง 3,000 บาท จากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อกับทางผู้ชักชวนอีกเลย จนช่วงปลายปี2566 ทราบข่าวว่านายทุนดังกล่าวถูกจับกุม ผู้ต้องหายังให้ข้อมูลอีกว่า ลูกชายอายุ 30 ปี ก็ตกเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ ด้วยความผิดเดียวกัน เนื่องจากขายบัญชีให้กลุ่มนายทุนนำไปกระทำความผิด ที่ผ่านมารู้ว่ามีหมายเรียกมายังบ้าน แต่ตนก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นคดีความที่นำมาสู่ความผิดได้จริง