ภูมิธรรม บุกห้างญี่ปุ่นโพรโมต กล้วยหอมไทย หลังทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 5,000 ตัน
วันที่ 13 พ.ค. 2567 เวลา 09:27 น.
ภูมิธรรม บุกห้างใหญ่ญี่ปุ่นโพรโมต กล้วยหอมไทย หลังทูตพาณิชย์โตเกียวจับมือพาณิชย์จังหวัดโคราช ส่งขึ้นห้างสำเร็จ ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 5,000 ตัน เล็งผลักดันผลไม้อื่นต่อ กล้วยหอมไทย วันนี้ (13 พ.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยภายหลังเข้าสำรวจสินค้าไทยในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เบเชีย (Beisia) ที่สาขาโทมิซาโตะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ช่วงเย็นวานนี้ (12 พ.ค.67) โดยห้างฯ มีผลไม้และสินค้าไทยหลายชนิดวางจำหน่าย อาทิ มังคุด มะม่วง มะขาม ข้าวโพดหวาน มะพร้าว ไก่และปลากระป๋อง เป็นต้น และที่เป็นไฮไลต์คือ กล้วยหอมของไทยที่นำมาจำหน่าย ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยเป็นผลสำเร็จจากการทำงานเชิงรุกร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ จนสามารถทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ถึง 5,000 ตัน และจะมีการผลักดันให้นำเข้าสินค้าและผลิตภัณฑ์ไทยไปวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มาติดตามความสำเร็จ จากการบูรณาการเชิงรุกระหว่างทูตพาณิชย์โตเกียว กับพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ที่ร่วมกันผลักดันกล้วยหอมไทยสู่ตลาดญี่ปุ่น ตามนโยบายการเร่งผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA ของไทย โดยไทยกับญี่ปุ่นมีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2550 ญี่ปุ่นให้สิทธิพิเศษยกเว้นภาษีนำเข้ากล้วยจากไทยเป็นจำนวน 8,000 ตัน แต่ที่ผ่านมายังใช้สิทธิ์ไม่ครบ คนญี่ปุ่นนิยมบริโภคกล้วยมาก แต่ปลูกเองได้น้อย ต้องนำเข้าเฉลี่ยถึงปีละ 1 ล้านตัน ที่ผ่านมาไทยได้ใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวเพียงปีละไม่ถึง 3,000 ตัน จึงตั้งเป้าเร่งส่งออกสินค้ากล้วยของไทยอีก 5,000 ตัน ให้ครบโควตาที่ไม่เสียภาษี ซึ่งขณะนี้สามารถทำการส่งออกกล้วยหอมของไทยได้เพิ่มขึ้นจากการบูรณาการทำงานในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมสั่งซื้อสินค้าผลไม้ล่วงหน้า ก่อนผลผลิตออกของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทูตพาณิชย์ และพาณิชย์จังหวัด การผลักดันกล้วยหอมไทยสู่ตลาดญี่ปุ่นในครั้งนี้ ทูตพาณิชย์โตเกียว ได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านกล้วยชาวญี่ปุ่นลงพื้นที่พัฒนาเทคนิคการปลูกให้ได้คุณภาพและปริมาณตามมาตรฐานญี่ปุ่น และนำนวัตกรรม “ไมโคร นาโน บับเบิ้ลส์” ของมหาวิทยาลัยล้านนา มาช่วยยืดระยะเวลาการสุกของกล้วยที่จะส่งไปขาย ขณะที่พาณิชย์จังหวัดโคราชประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ เกษตรจังหวัด อบจ. อบต. สร้างความพร้อมในการส่งออกให้เกษตรกร อาทิ การทำห้องเย็น โรงคัดแยกที่ได้มาตรฐาน ทำให้เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 คณะผู้นำเข้าญี่ปุ่น รวมถึงฝ่ายจัดซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ตเบเชีย (Beisia) ได้ลงนามทำสัญญาซื้อขายที่จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งสิ้น 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท โดยวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเบเชีย (Beisia) 125 สาขา ร้าน Co-op สหกรณ์ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ และแพลตฟอร์ม OISIX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจำหน่ายอาหารพร้อมทานที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และห้างฯ มีกำหนดจัด Thai Festival ในเดือน มิ.ย.นี้ ใน 133 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะมีทุเรียนของไทยจำหน่ายด้วย “จะเห็นว่ากล้วยหอมที่นี่มีความชุ่มฉ่ำอยู่ตลอดเวลา เกิดจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยล้านนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ยืดอายุผลไม้ให้ยาวนานขึ้น จากนี้กระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาคุยกัน เพื่อนำไปใช้กับผลไม้ไทยอื่นๆ ให้สามารถส่งสินค้าได้สดน่ารับประทาน โดยการผลักดันขายกล้วยหอมไทยมาญี่ปุ่นครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จากนี้เราจะทำเพิ่มขึ้นอีกกับผลไม้อื่นๆ เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้น อยากพัฒนาเกษตรกรให้ขึ้นมาเป็นเกษตรสมัยใหม่เอาวิทยาการมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น“ นายภูมิธรรมกล่าว ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่า บริษัท Beisia จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1996 ด้วยเงินทุนจดทะเบียนประมาณ 750 ล้านบาท ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 11,200 คน ประกอบธุรกิจห้างจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ โดยมีห้างในเครือ เช่น Beisia (133 สาขา) มียอดขายประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับทูตพาณิชย์โตเกียวมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้นำเข้า ผลไม้สด ไก่สดแช่แข็ง อาหารทะเลแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวจากไทย รวมกว่า 60 รายการ สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169