พิษณุโลก จับคาหนังคาเขา มือเผาป่าเขาน้อย-เขาประดู่
วันที่ 7 พ.ค. 2567 เวลา 08:37 น.
กรมอุทยานฯ จับคาหนังคาเขา ชาวบ้านพิษณุโลกลอบเผาป่าเขาน้อย-เขาประดู่ ของกลางยังคามือ เจ้าตัวสารภาพทราบดีว่าผิดกฎหมาย พิษณุโลก วานนี้(6 พฤษภาคม 2567) เมื่อเวลา 1.00 น. นายพรชล คงเพชรศักดิ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ได้รับรายงานการจับกุมบุคคลเข้าไปเผาป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งว่าพบเห็นกลุ่มควันไฟลอยขึ้นบริเวณพื้นที่ป่าด้านทิศตะวันออกของพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ เจ้าหน้าที่เขตฯ ผู้ใหญ่บ้านไร่สุขสมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตำรวจสายตรวจประจำ ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จึงเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีกลุ่มควัน ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านและคณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบชายไทยอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพและทำการบันทึกวิดีโอของพฤติกรรมชายคนดังกล่าว และทำการจับกุมพร้อมกับตรวจยึดของกลาง มีดหวด, ไฟแช็ก, มีดปลายแหลมและมีดดาบไม่มีด้าม จากการตรวจสอบ ทราบชื่อ คือ นายนคร อายุ 41 ปี ราษฎรบ้านไร่สุขสมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งนายนครฯ ได้ให้การว่าตนเองได้เข้าไปพักอยู่ในป่ามาเป็นเวลาหนึ่งและได้ตั้งใจจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ ซึ่งตนเองทราบดีอยู่แล้วว่าการจุดไฟเผาป่านั้นมีความผิดตามประกาศจังหวัดพิษณุโลก เรื่องห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปเผาป่า หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันจะก่อให้เกิดไฟในเขตป่าสงวนแห่งชาติทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้น คณะเจ้าหน้าที่และชุดสืบสวน สภ.วัดโบสถ์ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบ สภ.วัดโบสถ์ เพื่อดำเนินคดีในฐานความผิด ตาม พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้ผู้ใดยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต” มาตรา 25 ฐาน “บรรดาไม้ ของป่า อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อาวุธ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใดๆ ที่บุคคลได้มาหรือได้ใช้ในการทำความผิด หรือมีไว้เพื่อใช้กระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่" และ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 67(2) ฐาน “ตัด โค่น แผ้วถาง เผา ทำลาย ต้นไม้หรือพฤกษชาติอื่น ทำให้เสื่อมสภาพทรัพยากรธรรมชาติใดๆ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีฯ”