ศาลเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้อง บิ๊กโจ๊ก ฟ้องสื่อมวลชน และนายอัจฉริยะ เป็นวันที่ 8 กรกฎาคม 2567

วันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 13:57 น.

ศาลเลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้อง บิ๊กโจ๊ก ฟ้องสื่อมวลชน และนายอัจฉริยะ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เป็นวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ด้านนายอัจฉริยะ ยืนยัน ไม่ไกล่เกลี่ย เตรียมเดินหน้าเปิดโปงพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันของบิ๊กโจ๊ก ภายในสัปดาห์หน้า จากกรณีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักข่าวออนไลน์ เป็นจำเลยที่ 1 และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ เป็นจำเลยที่ 2 ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยมีกรณีนายอัจฉริยะ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีกำนันนก และพูดพาดพิงถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ โดยมีสำนักข่าวออนไลน์ นำไปเผยแพร่ โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ 22 เมษายน 2567 ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องฝ่ายโจทก์ โดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้ส่งทนายมาเป็นตัวแทนในการเบิกความ ขณะที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ตกเป็นจำเลยที่ 2 ในคดีเดินทางไปที่ศาลอาญา ตามนัด โดยมีรายงานว่าภายในห้องพิจารณาทนายฝ่ายโจทก์ ได้แถลงต่อศาลว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ติดให้ถ้อยคำเร่งด่วนที่ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จึงไม่สามารถเดินทางมาตามนัดได้ จึงเลื่อนนัดไต่ส่วนอีกครั้งในวันนที่ 8 กรกฎาคม 2567 นี้ เวลา 9.30 น. โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่าหลังทนายของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้แถลงต่อศาลทาง ตัวเองซึ่งเป็นจำเลยได้คัดค้านต่อ ศาลว่าการเดินทางไปให้ถ้อยคำที่ ป.ป.ช. ไม่เป็นความจริง ทนายจึงจะต้องเบิกความแทน ส่วนตัวมองว่าที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เดินทางมาเบิกความจะมีประโยชน์มากกว่า จึงเห็นด้วยให้การเลื่อนนัดไต่สวนออกไป  โดยนายอัจฉริยะเชื่อว่า การที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ฟ้องตัวเองในวันนี้เป็นพฤติกรรมการข่มขู่ ส่วนตัวไม่ขอไกล่เกลี่ย ยืนยัน จะเดินหน้าแถลงเปิดโปงพฤติกรรมการทุจริตคอรัปชันของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน รวมถึงผู้ที่อยู่ในขบวนการทั้งหมดว่ามีใครถือครองทรัพย์สินของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไว้บ้าง ซึ่งมีคนดังในวงการพระเครื่องถือครองทรัพย์สินแทน เช่น อาวุธปืนและรถหรู ที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ส่วนประเด็นที่มีคำสั่งจากรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ตัวเองมองว่า เป็นเรื่อง ที่กระทำโดยชอบ ตามกฎหมายและขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว