ไล่ล่าระทึก ตำรวจทางหลวงเกาะประตูรถบรรทุกจับคนร้ายจนบาดเจ็บ
วันที่ 13 เม.ย. 2567 เวลา 17:43 น.
ตำรวจทางหลวง ไล่ล่าคนร้ายซิ่งรถบรรทุกหลบหนี ใจเด็ดกระโดดเกาะประตู ก่อนตกรถบาดเจ็บ สุดท้ายเจอตามรวบตัวถึงสระบุรี ตำรวจทางหลวง วานนี้(12 เม.ย.2567ป เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ 3702 ฝั่งขาเข้า กทม. กม.89 พบรถบรรทุกต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณขอบทางโดยไม่เปิดไฟส่องสว่าง จากนั้นจึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ ซึ่งผู้ขับขี่ไม่ยินยอมให้ตำรวจเข้าตรวจสอบแต่โดยดี อีกทั้งยังหักรถและเร่งเครื่องเพื่อจะชนตำรวจ จนต้องกระโดดหลบรถบรรทุกคันดังกล่าว ซึ่งขณะที่รถบรรทุกคันดังกล่าวขับหลบหนีไปนั้น ยังมี ด.ต.มนัส ประทุมมานนท์ ที่ยืนเกาะอยู่ที่ประตูรถบรรทุกด้านคนขับ ยืนเกาะไปกับรถบรรทุกด้วย จากนั้นตำรวจจึงได้ขับรถไล่ติดตาม พร้อมกับแจ้งให้หยุดรถ แต่ตลอดการติดตาม ผู้ขับขี่รถบรรทุกไม่มีท่าทีที่จะยอมหยุดรถแต่อย่างใด อีกทั้งยังพยายามขับรถเบียดกับรถเจ้าหน้าที่ เพื่อจะทำให้ ด.ต.มนัสฯ ร่วงออกจากรถอยู่หลายครั้ง กระทั่งผู้ขับขี่รถบรรทุกได้เบรกรถด้วยความแรงอย่างกะทันหัน เป็นเหตุทำให้ ด.ต.มนัสฯ ร่วงออกจากรถลงมาบนพื้นถนน และทางคนร้ายจึงได้เร่งเครื่องขับรถบรรทุกหลบหนีไป ตำรวจจึงได้รีบนำตัว ด.ต.มนัสฯ ส่ง รพ.ชลบุรี ในทันที โดยอาการเบื้องต้น มีอาการบาดเจ็บที่เข่า ศอก และมือ ล่าสุด วันนี้ (13 เม.ย.2567) ตำรวจ กก.2 บก.ป. และ ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล. ทำการสืบสวนจนพบตัวคนร้ายที่ขับรถบรรทุกหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่จนเป็นเหตุให้ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ จ.สระบุรี ส่วนสาเหตุของการหลบหนี เมื่อตรวจสอบรถบรรทุกคันก่อเหตุที่คนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ พบว่า มีอุปกรณ์เสพยาเสพติดที่เผาไหม้ตกหล่นอยู่ และมีกลิ่นยาบ้าคลุ้งอยู่ภายในรถ และจากคำให้การของ ด.ต.มนัสฯ ว่าขณะตรวจสอบเห็นว่า คนร้ายกำลังเก็บซ่อนอุปกรณ์การเสพยาเสพติด (ยาบ้า) จึงเกิดความกลัวและพยายามหาทางหลบหนีการจับกุม โดยเร่งเครื่องออกจากจุดเกิดเหตุทันที ส่วนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า จอดรถเพื่อเสพยาอยู่บริเวณข้างถนนจุดเกิดเหตุ แต่เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกหยุดรถและขอทำการตรวจสอบ จึงเกิดความกลัวและพยายามต่อสู้ขัดขืนเพื่อจะหลบหนีความผิดไม่ให้ถูกจับกุม ทั้งนี้ ตำรวจได้ดำเนินการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป