ส่งคนงานกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสสารแคดเมียม เข้ารักษา
วันที่ 9 เม.ย. 2567 เวลา 07:12 น.
สนามข่าว 7 สี - ปัญหากากแคดเมียม เริ่มส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง พบอยู่ในโรงงานหลายพื้นที่ ซึ่งในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ที่พบเป็นจุดแรก ตรวจร่างกายพนักงานของโรงงานหลอมอะลูมิเนียม มีสารแคดเมียมในร่างกายเกินค่ามาตรฐาน 19 คน สร้างความหวาดผวาให้ประชาชนในพื้นที่ไม่น้อย กลุ่มคนงานในโรงงานหลอมอะลูมิเนียมแห่งแรก ในซอยกองพนันพล ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังจากผลตรวจปัสสาวะพบ 11 คน มีสารแคดเมียมในร่างกาย และสูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน 8 คน จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต้องเก็บข้อมูลปริมาณสารแคดเมียมที่ตรวจพบในร่างกายมาวิเคราะห์ เพื่อให้ทีมแพทย์วางแนวทางรักษา และเตรียมให้ยาขับสารพิษโลหะหนักออกจากร่างกาย และในวันนี้ ทีมสอบสวนโรค สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร จะลงพื้นที่ตรวจหาสารแคดเมียมในร่างกายประชาชนที่อยู่ในชุมชนรอบโรงงานแห่งแรกที่เจอกากแคดเมียม เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า พบข้อบกพร่องตั้งแต่การอนุญาตที่ต้นทาง จนถึงการควบคุมการขนส่ง และประสิทธิภาพของโรงงานที่ปลายทาง นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้ กรมโรงงาน, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจสอบโรงงานที่รับจ้างบำบัดกากอุตสาหกรรม และให้ กระทรวงอุตสาหกรรม หามาตรการควบคุมโรงงานให้ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาต ขณะที่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการ การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร บอกว่าการจับกุมนายทุนชาวจีน ครอบครองกากแคดเมียมที่จังหวัดชลบุรี แสดงให้เห็นขบวนการ มีทั้งนายหน้าที่จังหวัดสมุทรสาคร คนเช่าพื้นที่โรงงาน และเจ้าของโรงงาน ล้วนเป็นเครือข่ายคนจีน โดยตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนสีเทาในธุรกิจอุตสาหกรรม เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งปราบปรามกลุ่มคนเหล่านี้ ในด้านการดำเนินคดีเอาผิดขบวนการนี้ หลังจับกุม นายหลิว และ นายจาง เซิน ม่าว นายทุนชาวจีน ตำรวจ บก.ปทส. ขยายผลไปจับกุม นายกิตติธัช อายุ 64 ปี ที่พบว่าเป็นนายหน้าติดต่อให้ นายจาง ซื้อกากแคดเมียมจากบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร โดย นายกิตติธัช รับว่าเป็นพนักงานชั่วคราวของบริษัทดังกล่าว ถูกให้ไปควบคุมการขนส่งกากแคดเมียมกว่า 13,000 ตัน ที่จังหวัดตาก และในระหว่างการขนส่งก็หาลูกค้ามาซื้อ เพื่อรับค่านายหน้า ราคาตันละ 200 บาท โดย นายกิตติธัช อ้างไม่ทราบว่าบริษัทขายกากแคดเมียมไปให้ใครบ้าง ส่วน นายหลิว นายทุนชาวจีนอีกคนที่ถูกจับได้ที่จังหวัดชลบุรี ก็ไม่รู้จักมาก่อน ทั้งนี้ กากแคดเมียมที่คลองกิ่ว จังหวัดชลบุรีนั้น นายหลิว ซื้อมาจาก นายจาง ซึ่งมีบริษัทอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจนำหมายศาลเข้าตรวจค้น พบกากแคดเมียม 1,034 ตัน โดย นายหลิว ตกลงซื้อกากแคดเมียมจาก นายจาง 5,000 ตัน แล้วส่งไปให้บริษัทของ นายหลิว ที่จังหวัดชลบุรี แล้วเกือบ 4,000 ตัน คงเหลืออยู่ที่โรงงานอีก 1,034 ตัน เมื่อตรวจสอบประวัติ นายจาง พบว่า เคยถูกดำเนินคดีครอบครองตะกอนตะกั่ว ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย โดย พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ ปทส. เผยว่า วันนี้จะนัดประชุมกำหนดแนวทางการสอบสวนคดีกากแคดเมียมที่พบในโรงงาน จังหวัดสมุทรสาคร ดูว่าจะเรียกใครมาสอบปากคำบ้าง เช่น เจ้าของบริษัทที่สั่งซื้อแคดเมียม ซักถามถึงกากสารแคดเมียมที่เหลือว่าส่งไปเก็บไว้ที่ใดบ้าง ทำไมต้องขายต่อให้โรงงานในจังหวัดชลบุรี รวมถึงกลุ่มนายหน้าที่พยายามตัดการติดต่อ และคนที่รู้เห็นกระบวนการขนย้ายออกจากโรงงาน ยืนยันว่าข้อมูลต่าง ๆ เชื่อมโยงถึงกันทั้งหมด สำหรับข้อสังเกตในคดีนี้ ตำรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เริ่มแรกที่โรงงานสั่งให้ขุดสารแคดเมียม ที่ถูกฝังกลบทำลายไปแล้ว กลับเข้ามาที่โรงงานใหม่อีกครั้ง, เรื่องที่พบมีการว่าจ้างให้เจ้าหน้าที่ทำการวิเคราะห์ คำนวณโลหะทองแดงที่แฝงอยู่ในแต่ละถุง โดยไม่บอกว่าข้างในเป็นอะไร, การทำสัญญาซื้อขายกากสารแคดเมียมกับโรงงานที่จังหวัดชลบุรี 4,000 ตัน เป็นเงินกว่า 33 ล้านบาท จนได้ข้อสังเกตว่า หากมีการซื้อขายกากสารแคดเมียม 15,000 ตัน สำเร็จ จะทำให้บริษัทมีรายได้กว่า 123 ล้านบาท สูงกว่าราคาที่รับซื้อ จนเกิดข้อสงสัยเรื่องการลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ตำรวจ ปทส. และ กรมโรงงาน เข้าตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามหากากแคดเมียมที่หายไป ทั้งจากพื้นที่จังหวัดตาก สมุทรสาคร และอีกหลายจังหวัด พบถุงบิกแบ็ก มีลักษณะต่างจากถุงบิกแบ็กที่พบในโรงงานที่ปรากฏเป็นข่าว โดยตัวแทนบริษัทบอกว่า สั่งซื้อผงสังกะสี น้ำหนัก 500,000 กิโลกรัม มาจากบริษัทหนึ่ง และขออนุญาตหลอมอย่างถูกต้อง