ทนายอนันต์ชัยบุกจัดระเบียบวัด หลังเจ้าอาวาสขอให้ช่วย
วันที่ 8 เม.ย. 2567 เวลา 11:54 น.
เจ้าอาวาสขอให้ช่วยจัดระเบียบ พระลูกวัดไม่อยู่ในโอวาท ทนายอนันต์ชัยบุกวัดกางกฎหมายจัดระเบียบ พบปัญหาต่อเนื่องมาจากการชิงตำแหน่งเจ้าอาวาส ให้เช่าที่วัดทำตลาดนัด วันนี้ (8 เม.ย.67) ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมคณะทำงาน เดินทางไปยังวัดจันทร์ใน แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมร่วมกับผู้แทนคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาส และคณะสงฆ์วัดจันทร์ใน พร้อมกับประชาชนในพื้นที่รอบวัด เพื่อหาข้อยุติกรณีพระสงฆ์ในวัดจันทร์จำนวนกว่า 10 รูป มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม กระด้างกระเดื่อง ไม่อยู่ในโอวาท ไม่เชื่อฟังเจ้าอาวาส ไม่เข้าร่วมสังฆกรรมและกิจกรรมใด ๆ กับคณะสงฆ์ที่มีเจ้าอาวาสเป็นประธาน ทั้งยังร่วมกันกล่าวหาเจ้าอาวาสต่อเจ้าคณะฝ่ายปกครอง เพื่อให้ปลดเจ้าอาวาสออกจากตำแหน่ง โดยพยายามหาเหตุมาสร้างสถานการณ์ให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในวัด โดยได้ร่วมมือกับเจ้าคณะฝ่ายปกครองในพื้นที่บางรูป ทำให้พุทธศาสนิกชนรอบวัดต่างไม่พอใจพฤติรรมของพระสงฆ์กลุ่มดังกล่าว พระครูโสภณกิจจานุกิจ เจ้าอาวาสวัดจันทร์ใน ได้ส่งหนังสือเชิญพระทั้งหมดในวัดมาประชุมหารือร่วมกัน แต่ปรากฎว่าวันนี้มีพระสงฆ์ไม่เข้าร่วมประชุมตามคำสั่งเจ้าอาวาส 10 รูป เมื่อชาวบ้านไปนิมนต์พระที่ขาดประชุมมาร่วมประชุม ปรากฎว่ากุฏิปิดเงียบ เด็กวัดบอกว่าไม่อยู่ ไปฉันเพลนอกวัด พระครูโสภณกิจจานุกิจ เล่าว่า หลังเข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาสแทนเจ้าอาวาสรูปเดิม ก็สังเกตเห็นว่ามีการเช่าพื้นที่ลานทางเข้าวัดเป็นตลาดนัด ทำให้ส่งผลกระทบต่อกิจของสงฆ์ การสวดอภิธรรม และการฌาปนกิจ และยังกระทบไปถึงเด็กนักเรียนโรงเรียนด้วย จึงไปตรวจสอบหนังสือสัญญาเช่าที่ธรณีสงฆ์ ก็พบเลขโฉนดที่ผิดปกติ จึงไม่ต่อสัญญาให้ แต่ปรากฎว่ามีฆราวาสมาเสนอจ่ายเงินให้เดือนละ 17,000 บาท โดยบอกว่าก่อนหน้านี้เคยจ่ายให้พระ 2 รูป คนละ 12,000 และ 5,000 บาท แต่เมื่อพระครูโสภณกิจจานุกิจมาเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ก็จะจ่ายให้เจ้าอาวาสรูปเดียว 17,000 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาลที่ทุพลภาพ แต่อาตมาไม่รับไว้ เพราะมีสิทธิการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล 3 แห่ง จึงแนะนำไปว่า หากต้องการบริจาคปัจจัย ให้บริจาคเป็นกองทุนรักษาพยาบาลพระในวัดแทน จากนั้นฆราวาสคนนั้นก็หายไป ทนายอนันต์ชัย บอกว่า สาเหตุเริ่มต้นมาจากความขัดแย้งแย่งชิงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแทนเจ้าอาวาสรูปเดิม โดยผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นเจ้าอาวาสวัดรูปต่อไป ไม่ผ่านเกณฑ์ของเจ้าคณะปกครอง จากนั้นจึงมีการแต่งตั้งพระครูโสภณกิจจานุกิจ ซึ่งอยู่วัดอื่น มาเป็นเจ้าอาวาสวัดจันทร์ใน เมื่อปี 2564 สร้างความไม่พอใจให้กับพระสงฆ์กลุ่มเดิม ทำให้พระกลุ่มนี้ไม่ร่วมสังฆกรรมต่างๆ ที่นำโดยเจ้าอาวาส และยังร้องเรียนเจ้าอาวาสวัดต่อเจ้าคณะผู้ปกครองคณะสงฆ์ในพื้นที่ และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร แต่ผลการตรวจสอบไม่พบว่าเจ้าอาวาสวัดจันทร์ใน ทุจริตหรือละเมิดพระธรรมวินัย แต่ยังมีขบวนการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าอาวาสได้รับโทษทางอธิกรณ์สงฆ์ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ ทำให้เจ้าอาวาสมอบอำนาจให้มูลนิธิทนายกองทัพธรรมฟ้องพระสังฆาธิการและคณะรวม 7 รูป เมื่อวันที่ 23 ก.พ.67 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นรับฟ้อง ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า หลังจากวันนี้ จะให้เจ้าอาวาสส่งหนังสือแจ้งเตือนให้กลุ่มพระสงฆ์คู่กรณีมาร่วมปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นรายครั้ง จำนวน 3 ครั้ง หากไม่ทำตาม เจ้าอาวาสก็สามารถบังคับกฎมหาเถระสมาคม ว่าด้วยอำนาจเจ้าอาวาส ที่มีอำนาจในการปกครองภิกษุสามเณร สามารถมีคำสั่งให้ภิกษุที่ไม่อยู่ในโอวาท ออกจากวัดได้ภายในเวลา 3-15 วัน หากพระรูปดังกล่าวไม่ยอมออก เจ้าอาวาสก็สามารถประสานเจ้าหน้าที่รัฐเข้าดำเนินการได้ ส่วนกลุ่มพระที่ถูกร้องให้ออกจากวัด ก็สามารถยื่นเรื่องทักท้วงให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เคยพยายามพูดคุยกับพระคู่กรณีถึงปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายต้องการร้องเรียนเจ้าอาวาสประเด็นใดบ้าง หรือมีหลักฐานใดบ้าง เพราะทางมูลนิธิฯ ต้องรับฟังพยานทั้งสองฝ่าย แต่อีกฝ่ายไม่ขอให้ข้อมูล อ้างว่าไม่ไว้ใจมูลนิธิฯ