ทนายอนันต์ชัยบุกปราบมาเฟียวัด ตรวจเส้นเงิน 11 ล้าน
วันที่ 2 เม.ย. 2567 เวลา 18:13 น.
ทนายอนันต์ชัยบุกปราบมาเฟียวัด หลังมีปรากฎคลิปอดีตเจ้าอาวาสช่วยตัวเอง ถูกปลดแต่ไม่ยอมออกจากวัด เดินหน้าตรวจสอบเส้นทางเงิน 11 ล้าน วันนี้ (2 เม.ย.67) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยพระปกครองจังหวัดปทุมธานีและฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังได้รับการร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสเคยมีคลิปวิดีโอช่วยตัวเองแชร์ลงบนโซเชียล จนเกิดกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก ก่อนทางวัดต้องประกาศปลดเจ้าอาวาส แต่กลับพบข้อเท็จจริงว่าอดีตเจ้าอาวาสาส ยังคงจำวัดและมีพฤติกรรมบริหารจัดการเงินวัด ทั้งนี้ก่อนการประชุม ทนายอนันต์ชัย ได้แจ้งกับชาวบ้านประมาณ 50 คน ที่เข้าร่วมรับฟังการประชุมในครั้งนี้ ว่าขอให้ร่วมฟังอย่างเป็นระเบียบ เนื่องจากมีการชักชวนชาวบ้านมาต่อต้านและหากชาวบ้านคนใดไม่ปฏิบัติตามจะมีการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาบุกรุก เพราะตนได้รับมอบอำนาจในการจัดระเบียบของวัดแล้ว ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบการกู้ยืมจากญาติโยมหลายคนรวมเงิน 11 ล้านบาท โดยไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้ ไม่มีการทำบัญชีวัด แต่พบเงินโอนเข้าไปยังบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสที่อ้างว่านำมาพัฒนาวัด พร้อมเรียกร้องให้อดีตเจ้าอาวาสลาสิกขา เนื่องจากการกระทำที่เกิดขึ้นไม่สามารถจะคงสภาพความเป็นพระได้ ควรไปอยู่ที่อื่น ไม่ควรทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง พุทธศาสนิกชนจะได้มาทำบุญ นอกจากนี้ ทนายอนันต์ชัยเรียกร้องไปยังฆราวาสบางคนที่ทำตัวเป็นมาเฟีย ยังสนับสนุนอดีตเจ้าอาวาส อย่าปกป้องคนผิด อย่าปกป้องพระที่เป็นอลัชชี เบื้องต้นพระครูปริยัติยาคม เจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์รูปปัจจุบัน แต่งตั้งให้ทนายอนันต์ชัยพร้อมทีมมูลนิธิกองทัพธรรมเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเป็นผู้จัดการผลประโยชน์ของวัด ทำบัญชีรายงานสำนักพระพุทธศาสนาให้เรียบร้อย เนื่องจากมีพระและบุคคลทำตัวเป็นมาเฟียขัดขวางไม่ให้เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเข้ามาจำวัด ซึ่งหลังจากวันนี้จะเข้าจำวัด และแต่งตั้งไวยาวัจกรคนใหม่อย่างถูกต้องตามกฏหมายต่อไป ทางด้านอดีตเจ้าอาวาส ชี้แจงว่า ไม่เคยโกงเงินวัด มีแต่พัฒนาวัด รักวัด สิ่งที่ถูกกล่าวหาสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมดและจะไม่ยอมสึก เนื่องจากไม่ได้ทำผิดอะไร ซึ่งขณะที่อดีตเจ้าอาวาสได้ชี้แจงอยู่นั้น ได้มีการปะทะคารมกับทนายอนันต์ชัย จนกระทั่งเกือบบานปลายเพราะกลุ่มศิษย์ที่เป็นฆราวาสของอดีตเจ้าอาวาส ได้เอะอะโวยวายและบุกเข้ามาเกือบจะถึงตัวของคณะของทนายอนันต์ชัย จนตำรวจต้องเชิญตัวลูกศิษย์ออกนอกห้องประชุม