ทนายตั้ม แฉส่วยตัวท็อป พาดพิงใครบ้าง
วันที่ 27 มี.ค. 2567 เวลา 07:11 น.
สนามข่าว 7 สี - ข้อมูลที่ "ทนายตั้ม" แฉเรื่อง "ส่วยตัวท็อป" แบบพลีชีพเมื่อวาน ก็มีการพาดพิงบุคคลหลายคน ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็มีปฏิกิริยากับเรื่องนี้ออกมาต่าง ๆ กันไป ส่วน "บิ๊กโจ๊ก" เมื่อวานไม่ไปตามหมายเรียก ก็ต้องรอดู 09.00 น.วันนี้ ว่าจะมี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" หรือไม่ เมื่อวานนี้ในการแถลงข่าวของ "ทนายตั้ม" โฟกัสหลัก ๆ จะมีอยู่ 3 ตัวละครสำคัญ ได้แก่ "ดาบยาว คอมมานโด" คนที่คอยรวบรวมเงินส่วย, "รองฟาง" คนสนิท "บิ๊กต่อ" และตัว "บิ๊กต่อ" เอง ถัดมาก็คือคนที่จะเชื่อมโยงกับ 3 ตัวละครนี้ ก็คือคนเก็บเงินส่วย ที่อยู่ใน 5 พื้นที่ทั่วประเทศ เปิดมาอีก 5 ชื่อ โดยทุกคนจะต้องรวบรวมเงิน ตัดยอดส่งทุกวันที่ 25 ของเดือน ส่วนที่ว่าเงินมาจากไหนก็เปิดให้ดู "ส่วย" 18 รายการ ส่วนใหญ่เป็นจำพวกธุรกิจสีเทา อย่าง บ่อนพนัน, เว็บฯ พนัน, ผับ, สถานบันเทิง, อาบ อบ นวด ได้มาแล้วทำอย่างไร ก็โอนเงินผ่านบัญชีม้า บางบัญชีเป็นชื่อของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังเคลื่อนไหวอยู่ มีบัญชีม้าสำคัญชื่อ "คชาชาญ" เชื่อมโยงกับบัญชีของ "พิมพ์วิไล" แอดมินเว็บฯ พนัน "BNK MASTER" ซึ่งก็จะตรงกับที่ ทนายของ "บิ๊กโจ๊ก" เคยตั้งโต๊ะแถลงข่าว 34 เส้นทางการเงิน พอเงินเข้าไปแล้ว ก็จะมีคนไปกดเป็นเงินสดออกมา นำไปส่งมอบกันที่ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด และ บช.สอท. หรือกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ หลักฐานก็มีภาพวงจรปิด สลิปเงิน ภาพถ่ายยืนยันการโอนเงินเป็นหลักฐาน และแผนผังเส้นทางการเงิน จึงทำให้ "ทนายตั้ม" เชื่อว่าเชื่อมโยงไปถึง "บิ๊กต่อ" การแถลงข่าวนี้มีหลายคนที่จับตามอง อย่าง พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ก็เชื่อว่าเรื่องนี้มีมูลน่าเชื่อถืออยู่หลายส่วน ยังแนะนำว่า "ทนายตั้ม" สามารถนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนกับ พลตำรวจโท สรศักดิ์ เย็นเปรม คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ให้เข้าไปตรวจสอบได้ จากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ที่มีการพาดพิงชื่อคล้าย ๆ กับ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก็ทำให้ทางสมาคม เร่งออกแถลงการณ์ชี้แจง อ้างอิงว่า "ทนายตั้ม" ไม่ได้เอ่ยชื่อองค์กรนี้ แต่เป็นชื่อ "สมาคมนักข่าว นสพ. แห่งประเทศไทย" ซึ่งทางสมาคมตรวจสอบแล้วไม่เจอสมาคมดังกล่าว ก็อยากเรียกร้องให้ระบุชื่อชัด ๆ ว่าหมายถึงหน่วยงานใด ไม่เช่นนั้นก็ต้องดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อปกป้องเกียรติยศขององค์กร ขณะที่ ทนายตั้ม โพสต์สวนกลับว่า คุณได้ถามคนในคุณหรือยังว่าได้รับเงินใคร ผมใบ้ตัวย่อให้ ตำแหน่งอุปนายก อักษรย่อ ว. เอาเลขบัญชีด้วยไหม ธนาคารกสิกรไทย 758XXXXXXX แล้วมีการแสดงความคิดเห็นใต้โพตส์นี้ ว่า ผมจัดเต็มอยู่แล้ว เพียงแต่ผมเป็นทนาย ผมก็ต้องระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลในระดับที่พอดี กับการไม่ถูกฟ้อง เช่นเดียวกับที่มีรายงานข่าวว่า "บิ๊กต่อ" เอง ก็ได้ดูข่าวนี้แล้ว โดยเปิดเผยกับทีมสนามข่าว 7 สี ว่า ตอนนี้มาทำงานที่ต่างจังหวัด แต่รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ย้ำว่าข้อมูลนี้ เป็นข้อมูลเก่าที่มีกลุ่มคนพยายามจะนำมาดิสเครดิตตนเอง จึงตั้งทีมทนายความเตรียมพิจารณาฟ้องกลับผู้ที่กล่าวหา ซึ่ง นายสุทธิพงศ์ ชีวิตเจริญ หนึ่งในทีมทนายความของ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ หรือ บิ๊กต่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานฟ้องกลับทนายตั้มในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากนั้นจะร้องเรียนสภาทนายความเรื่องมรรยาททนายความของ "ทนายตั้ม" ด้วย เพราะการแถลงข่าวของ ทนายตั้ม ครั้งนี้ ทำให้ "บิ๊กต่อ" เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่ข้อมูลไม่เป็นความจริง หลักฐานเส้นเงินไม่ได้ถึงตัว "บิ๊กต่อ" เลย เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ หากหลักฐานถึงใครจะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป ส่วนประเด็นเรื่องการใช้บัญชีม้าโอนเงินทำบุญ ทอดกฐินให้กับวัดนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 "บิ๊กต่อ" ไม่ได้ไปวัดแห่งนี้ มีเพียงแค่ชื่อเป็นประธาน จึงไม่รู้ว่ายอดเงินบริจาคเท่าไร เพราะในวันนั้นไปร่วมงานทอดกฐินอีกวัดหนองแดง จังหวัดมหาสารคาม เช่นเดียวกับ "บิ๊กต่าย" ที่ต้องตอบเรื่องนี้ถึง 2 รอบ ซึ่งก็พูดคล้าย ๆ กันว่า เป็นสิทธิของ "ทนายตั้ม" ที่จะพูดหรือชี้แจงอะไรก็ได้ ส่วนจะรับข้อมูลชุดนี้มาตรวจสอบหรือไม่ ต้องรอให้มีการรายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน ถึงจะพิจารณาตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายได้ ส่วน นายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็นประธานการประชุม "ก.ตร." ที่สำนักงานตำรวแห่งชาติ ก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนจะไม่ยุ่งเรื่องดังกล่าว พอ นายกฯ ตอบมาแบบนี้ เราก็เลยสอบถามเรื่องนี้กับ พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง 1 ใน 3 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ก็บอกกับเราสั้น ๆ ว่า ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเชิญ "ทนายตั้ม" มาให้ข้อมูล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ ส่วนเรื่อง "บิ๊กโจ๊ก" เผื่อใครลืม เมื่อวานครบกำหนดหมายเรียกผัดที่ 2 ทีมข่าวตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าไม่พบว่า ได้เข้ามอบตัวกับใครที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น สน.เตาปูน หรือ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เงียบสนิท แต่ก็มีรายงานข่าวว่า 09.00 น. วันนี้ ลือกันสะพัดเลยว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะไปขอศาลออกหมายจับ "บิ๊กโจ๊ก" ก็ต้องรอดูกันว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ไม่ได้ไปขอหมายจับด้วย คณะพนักงานสอบสวนประชุมกันอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ทางนักข่าวสายศาลก็ยืนยันว่า มีการประสานมาจากทางตำรวจนครบาลว่า จะมีการเข้ามาขอหมายจับผู้ต้องหา 1 นาย