สันธนะ แจ้งเอาผิด ชาดา 4 คดี พาดพิงด้อยค่า-เหยียดหยาม

วันที่ 25 มี.ค. 2567 เวลา 06:24 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีทลายบ่อนโครตใหญ่ย่านบางใหญ่สัปดาห์ก่อน ส่อเค้าลามถึงการเมือง หลังมีข่าวลือว่าต้นเหตุมาจากมีรัฐมนตรีท่านหนึ่งไปเล่นเสีย 15 ล้านบาท แต่เคลียร์ไม่ได้ จึงแจ้งจับเอง สุดท้ายเรื่องนี้กลายมาเป็นดรามาคู่ใหม่ ระหว่าง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มือปราบมาเฟียของรัฐบาล กับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เรื่องของเรื่องคือหลังเกิดกรณีทลายบ่อนโครตใหญ่ระดับเงินหมุนเวียน 320 ล้านบาท มีผู้เล่น 300 คนต่อวัน ที่ย่านบางใหญ่ นายสันธนะ บุกไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเข้าพบนายชาดา แต่ไม่ได้พบ จึงให้สัมภาษณ์สื่อพาดพิงถึงความสัมพันธ์ของนายชาดา กับเสี่ยนกเขา เจ้าของบ่อน ว่ามีความสนิทสนมกันดี พร้อมนำภาพคู่มาโชว์สื่อด้วย ทำให้ นายชาดา ซึ่งวันนั้นติดประชุมงบ 67 ในสภา ถึงกับควันออกหู ฝากสื่อกลับไปบอกว่า "อย่ามายุ่งกับผม มันขี้กาก ผมไม่สนมันหรอก คนอย่างสันธนะ ไม่มีราคา มันก็จะเอาเงิน เอาอะไรของมันไป ผมไม่สนมันอยู่แล้ว" สวนกันคนละหมัดแบบนี้เรื่องยังไม่จบ ล่าสุด นายสันธนะ ไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา รวมถึงนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีบ่อนบางใหญ่ ที่ได้มาจากเจ้าของบ่อนเป็นข้อมูลเพิ่มเติมมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย นายสันธนะ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนของนายชาดา มีการพาดพิงใช้คำพูดด้อยค่าเหยียดหยาม ทำให้ตนและครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง และผิดจริยธรรมนักการเมือง หลังจากนี้จะเดินทางไปร้องต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรม ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีรัฐมนตรีไปเล่นการพนันที่บ่อนแห่งนี้ แล้วเสียพนันไป 15 ล้านบาท นายสันธนะ กล่าวว่า ไม่รู้ข้อมูลส่วนนี้ แต่ที่รู้คือกล้องวงจรปิดในโซน VIP หายไป ภาพที่มีการเผยแพร่นั้น เป็นเพียงภาพโซนด้านนอก คนละส่วนกับโซน VIP นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า บ่อนแห่งนี้เริ่มเปิดต้นเดือนกันยายน 2566 ช่วงเดียวกับที่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ถ้าอยากรู้ว่าไทม์ไลน์นี้จริงหรือไม่พิสูจน์ได้ไม่ยาก ลองไปขอบิลค่าไฟดูย้อนหลังก็ได้ เพราะทันทีที่เปิดบ่อน ค่าไฟค่าแอร์ 24 ชั่วโมง ไปขอข้อมูลนี้จากการไฟฟ้ามาก็จะรู้เองว่าจริงหรือไม่ พร้อมถามว่าในช่วงที่มีการเปิดบ่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ หรือ สื่อนำเรื่องนี้ไปถาม นายชาดา เช่นกัน ซึ่งเมื่อวานเดินทางไปร่วมการประชุมใหญ่สามัญพรรคภูมิใจไทย นายชาดา กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ปากแห้ง ถือศีลอด ไม่อยากพูด แล้วขอตัวไปประชุมทันที ส่วนอีกหนึ่งคนที่เริ่มขยับผ่านทางโซเชียลแล้วทำให้สังคมจับตาเช่นกันว่า อะไรยังไง ก็คือเงินปึกนี้ พร้อมโพสต์ข้อความของ "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด ระบุ "ผมได้รับข้อมูลมาชุดนึง ที่เรียกว่าเร้าใจมาก ๆ ถ้าเปิดไปครอบครัวเดือดร้อนแน่ ๆ แต่ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย จะเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองที่สุด และมีตำรวจอีกหลายนาย โดยเฉพาะตัวเป้ง ๆ ระดับนายพล จะได้รับผลกระทบแบบสะเทือนถึงดวงดาว คำถามคือ ทุกคนคิดว่าผมควรแลกไหมครับ หรืออยู่เงียบ ๆ ดีกว่า ขอประเดิมด้วยภาพเงิน ส่วยใคร จ่ายให้ใคร อยากรู้กันไหมครับ?"