เปิดหลักฐาน ตามจับยกแก๊งสาวนักล้วงกระเป๋าข้ามชาติ จ.ตาก
วันที่ 25 มี.ค. 2567 เวลา 07:03 น.
สนามข่าว 7 สี - อย่าคิดกระตุกหนวดตำรวจไทย เดี๋ยวจะเหมือนสาวนักล้วงกระเป๋าข้ามชาติแก๊งนี้ ทำงานกันเป็นทีม พอฉกทรัพย์จากเหยื่อได้แล้วรีบหนี ข้ามฝั่งกลับประเทศเมียนมาทันที แต่ตำรวจเฝ้าติดตามจนตะครุบตัวได้เกือบยกแก๊ง และจากแนวทางการสืบสวน พบบางคนในแก๊งก่อเหตุสร้างตัวมีฐานะร่ำรวย ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งในหลักฐานที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก สืบเสาะหามาได้ ถ้าดูผิวเผินจะเห็นภาพลูกค้าจำนวนนับสิบคน ยืนเลือกซื้อและขายทองคำกันอยู่ที่หน้าร้านทองแห่งหนึ่ง อยู่แถวตลาดสดพาเจริญ เขตเทศบาลนครแม่สอด แต่หารู้ไม่ว่าหญิงสาวหลายคนของแก๊งสาวนักล้วงกระเป๋า ได้แฝงตัวยืนปะปนอยู่ด้วยในกลุ่ม รอสบโอกาสก็ลงมือล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์จากผู้ที่ไม่ทันระวังตัว พฤติการณ์แก๊งนี้ทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ลอยนวลไปได้ทุกครั้ง จนล่าสุดวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายชาวเมียนมาชื่อ นางต่อเทวิน อายุ 60 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.แม่สอด ว่าเงินสดจำนวน 80,000 กว่าบาท ซึ่งเตรียมมาซื้อทองคำรูปพรรณ ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง ได้สูญหายไป โดยสงสัยว่าถูกล้วงประเป๋า ภายหลังตำรวจไปไล่เก็บภาพกล้องวงจรปิดของร้านทองที่เกิดเหตุ พบภาพกลุ่มคนร้ายเป็นหญิงสาว 6 คน ชาวเมียนมา มีพฤติการณ์แบ่งหน้าที่ทำกันเป็นทีม เลือกก่อเหตุตามร้านทอง ก่อนลงมือจะเดินตามประกบเหยื่อที่แต่งตัวดี ดูมีฐานะ รอทีเผลอเดินเข้าไปเบียดใช้มือล้วงกระเป๋าเอาเงิน ทุกครั้งที่ก่อเหตุได้ทรัพย์สมใจ สมาชิกทุกคนในแก๊งรีบเผ่นหนีไปกลับไปประเทศตัวเองทันที ตำรวจเฝ้าติดตามอยู่หลายวัน จนเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) หญิงสาวแก๊งนี้ย่ามใจ เดินทางข้ามแดนมาก่อเหตุซ้ำอีก แต่รอบนี้พวกเธอไปข้ามที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 แต่ดวงไม่ดีเท่าระบบ เครื่องตรวจจับพบประวัติน่าสงสัยเป็นผู้ก่อคดี เจ้าหน้าที่ประจำด่านจึงแจ้งข้อมูลให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่สอด ทราบและวางแผนตามจับกุมได้ทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นางสาวซัน ซัน วิน อายุ 40 ปี หัวหน้าแก๊ง และทำหน้าที่กรีดและล้วงกระเป๋าเหยื่อด้วย 2.นางสาวซาไนท์ มา อายุ 32 ปี 3.นางสาวไคคิ คิน อายุ 35 ปี 4.นางสาวเซิน ทู อายุ 25 ปี 5.นางสาวโอ ทเว อายุ 41 ปี ส่วนหญิงอายุ 30 ปี ที่ร่วมก่อเหตุอีกคนหลบหนี กลับไปฝั่งประเทศเมียนมา ระหว่างตำรวจคุมตัวทั้งหมดมาเค้นสอบ พร้อมกับนำภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ ในวันที่ลงมือก่อเหตุ มาให้พวกเธอดู ก็จำนนต่อหลักฐาน ยอมรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง แต่ละครั้งจะข้ามฝั่งมาก่อเหตุ โดยเลือกสถานที่ตลาด ซึ่งมีคนพลุกพล่าน ก่อเหตุเสร็จแล้วก็เดินทางกลับประเทศเมียนมาทันที โดยตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับสาวทั้ง 5 คน ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในการก่อเหตุ