เจ้าของบ้าน คืนเงินมัดจำครึ่งแสนให้ผู้เช่า หลังออกรายการ ถกไม่เถียง

วันที่ 18 มี.ค. 2567 เวลา 06:42 น.

เช้านี้ที่หมอชิต -  เมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ถกไม่เถียง วีกเอนด์ ออกอากาศเกี่ยวกับกรณีเจ้าของบ้านเช่าหัวหมอ ไม่ยอมคืนมัดจำครึ่งแสน หลังขอออกก่อนหมดสัญญา แต่ผู้เช่ากลับช้ำหนัก ถูกเจ้าของบ้านล็อกกุญแจบ้าน สุดท้ายต้องเร่ร่อน "เงินก็ไม่ได้ ที่อยู่ก็ไม่มี" แต่เรื่องนี้หลังรายการออกอากาศไม่นาน ก็มีความคืบหน้าทันที ย้อนไปเมื่อวานนี้ นางสาวสุนทราภรณ์ บุญนะ หรือ กระแต มาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง วีกเอนด์" ว่า ตนจ่ายเงินแรกเข้า 48,000 บาทเมื่อ 26 สิงหาคม 2566 เข้าอยู่วันที่  31 สิงหาคม 2566 แต่สัญญาเช่าเริ่ม 1 กันยายน 2566 อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ตนกับแฟนจะย้ายไปทำงานต่างจังหวัด เลยไปเจรจาตกลงกับเจ้าของบ้านว่าขออนุโลมเรื่องเงินมัดจำหน่อยได้ไหม จะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด มีค่าใช้จ่ายเยอะ ตอนคุยเสร็จ เจ้าของบ้านบอกให้ตนหาผู้เช่าใหม่มาอยู่แทนหน่อย เรื่องเงินมัดจำเดี๋ยวคืนให้ทั้งหมด ตนก็หาผู้เช่าใหม่มาให้ ต้องย้ำว่า ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านหลังนี้มาคุณกระแต ไม่เคยค้างจ่ายเงินค่าเช่าเลยสักครั้ง แต่เธอแจ้งขอย้ายออกเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 แต่วันที่ 5 มีนาคม เจ้าของบ้านยังทักมาทวงค่าเช่า ตนก็จ่ายไปตามปกติเพราะยังไม่ได้ยกเลิกสัญญา วันที่ 7 มีนาคม ตนเริ่มย้ายของบางส่วนออก เพราะหาผู้เช่าใหม่ได้ โดยผู้เช่าใหม่เข้าอยู่ภายในวันที่ 10 มีนาคม 2567 ถ้าตนหาผู้เช่าใหม่ได้ทางเจ้าของบ้านจะคืนเงินมัดจำและค่าเช่าเดือนมีนาคมให้ เท่ากับว่าตนต้องได้เงินคืน 3 เดือน เงินมัดจำ 2 เดือน และเงินค่าเช่าเดือนมีนาคม 1 เดือน แต่กลับไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ วันที่ 12 มีนาคม 2567 ตนเลยไปแจ้งความ พอมีใบแจ้งความเจ้าของบ้านก็ติดต่อกลับมาทันที ให้ตนถอนแจ้งความเดี๋ยวจะดำเนินการเหมือนเดิมตามที่แจ้งไว้ตอนแรก แล้วจะโอนเงินให้ทั้งหมด ตนเลยถอนแจ้งความแต่ก็ไม่ได้เงินคืน   นายอนันต์ ชาวัน สามีของคุณกระแตเล่าว่า วันที่ 10 มีนาคม ตนนัดผู้เช่าใหม่ให้มาดูบ้าน และนัดเจ้าของบ้านมาเจอผู้เช่าคนใหม่ แต่เจ้าของบ้านมาถึงก็บอกว่าขอยกเลิกนะ พอดีเขามีลูกค้าคนอื่นมาดูด้วย เขาให้ค่าเช่าเยอะกว่า ตนและแฟนก็งงว่าข้อตกลงที่คุยไปก่อนหน้าจะทำอย่างไร หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็เปลี่ยนกุญแจ สัญญาเก่าก็ยังไม่ได้ยกเลิก ตนกับแฟนก็ยังเข้าบ้านไม่ได้ ซึ่งทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ระบุในรายการว่า หลักฐานในไลน์มัดตัวเจ้าของบ้าน เพราะสัญญาเกิดขึ้นก่อนที่จะคุยกันในไลน์ ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้เช่าจะถอนแจ้งความเรื่องความผิดฐานฉ้อโกง แต่ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กรณีหลอกลวงทางไลน์ โทษจำคุกไม่เกิด 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำปรับ แต่ล่าสุด หลังจากรายการออกอากาศ เรื่องนี้จบลงทันทีอย่างแฮบปีเอนดิง เพราะทางคุณกระแตและสามีแจ้งว่า ได้เจรจากับอีกฝ่ายและได้รับเงินจนเป็นที่พอใจแล้ว และขอขอบพระคุณทางรายการที่ติดต่อไป เป็นอีกช่องทางที่ทำให้คู่กรณีรีบเข้ามาเคลียร์ และฝากขอบพระคุณทางทีมงานรายการอีกครั้ง