หนุ่มกู้ภัย ยอมรับผิด ขายรถ-อุกรณ์ที่ได้รับบริจาค อ้างทำเพื่อสังคม
วันที่ 16 มี.ค. 2567 เวลา 18:14 น.
"ส.ท.โอ๊ต" หนุ่มกู้ภัย ยอมรับผิด ขายรถ-อุกรณ์ที่ได้รับบริจาค อ้างเอาเงิที่ขายมาปรับปรุงรถที่มีอยู่ เพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป ภายหลังเกิดข่าวครึกโครมเรื่องการขายรถกู้ภัยที่ได้รับบริจาคและอุปกรณ์ตัดถ่าง จนมีการขุดคุ้ยเรื่องราวต่างๆ ออกมาเป็นประเด็นร้อนฉ่า สำหรับหนุ่มกู้ภัย วัย 21 ปี หรื รู้จักในการนาม ส.ท.โอ๊ต กู้ภัยเวียงงาม ล่าสุด วันนี้ (17 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางยังศูนย์กู้ภัยเวียงงาม บ้านหนองป่าแขม ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง พบว่าปิดเงียบสนิทไม่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัย มีเพียงรถคู่หู่ของกู้ภัยโอ๊ต จอดอยู่ 1 คัน โดย สท.โอ๊ต ได้ยอมเปิดใจว่า ตนเองยอมรับผิดทุกประเด็นที่เกิดขึ้น ส่วนเงินที่ขายรถจะมาเอาปรับปรุงรถที่มีอยู่ให้ดีขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป และตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับพี่คนที่ซื้อรถไปเพื่อไกล่เกลี่ยคืนเงินผ่านทางแช็ต สรุปคร่าวๆ คือ ตนเองต้องหาเงินคืนให้กับพี่คนที่ซื้อรถไป แต่ตนเองจะไมได้รับรถกู้ภัยและอุปกรณ์คืน เนื่องจากคนที่ซื้อจะคืนรถและอุปกรณ์ตัดถ่างให้กับเจ้าของเดิมที่บริจาคมากก่อนหน้านี้ ซึ่งตนก็ไม่มีอะไรติดขัด ปัจจุบันศูนย์กู้ภัยเวียงงาม ขอปิดตัวลงก่อน และจะกลับมาทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอีกครั้ง อย่างถูกต้องตามกฏหมาย สำหรับกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมาได้มีการแชร์คลิปภาพข่าวอาสาสมัครกู้ภัย ถูกแฉพฤติกรรม ซึ่งเป็นหนุ่มกู้ภัยเวียงงาม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กรณีการติดต่อซื้อขายรถกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างในราคา 1005,000 บาท สุดท้ายความแตกทราบว่าเป็นรถและสิ่งของที่ได้รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคม จนเป็นข่าวดังในแวดวงกู้ภัย หลังจากนั้น ก็ได้มีการขุดคุ้ยพฤติกรรมความไม่เหมาะสม เช่น ในการเรี่ยไรบริจาคเงิน การนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จในการช่วยเหลือผู้อื่นเพื่อหวังผลประโยชน์ ขับขี่รถกู้ภัยด้วยความประมาทหวาดเสียว มีพฤติกรรมใช้รถกู้ภัยเปิดไซเรนเสียงดังขับขี่ด้วยความเร็วจนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หวาดกลัว สร้างความวุ่นวายและเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อองค์กรสมาคมมูลนิธิกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จนล่าสุดเมื่อวานนี้ ทางเพจสมาคมกู้ชีพ – กู้ภัยแม่ฮ่องสอน ได้ออกแถลงการณ์ ว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเครือข่ายพันธมิตรกู้ชีพ กู้ภัยแม่ฮ่องสอนและไม่ได้อยู่ในระบบบริหารทางการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเข้าใจผิดให้กับทางเครือข่ายพันธิมิตรเป็นอย่างมาก จึงได้มีการออกแถลงการณ์ถึงจุดยืนขององค์กรในเครือข่ายไม่สนับสนุนหรือมีส่วนในเรืองดังกล่าวแต่อย่างมใด ขณะที่ สท.โอ๊ต ยังมีความหวังว่า หลังจากเคลีย์ปมปัญหาต่างๆ แล้ว จะขอกลับมาทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน อีกครั้งและ จะทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมาย เข้าระบบอย่างถูกต้องเช่นกัน