สั่ง ส.ต.ท. ตร.คอมมานโด ออกจากราชการ
วันที่ 9 มี.ค. 2567 เวลา 05:20 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - "สิบตำรวจโท" ตำรวจคอมมานโด ที่ก่อเหตุใช้ภาพร่วมรักข่มขู่อดีตแฟน และขายภาพลับในโซเชียล เข้าพบ "รองเต่า" เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่ต้นสังกัดลงดาบสั่งให้ออกจากราชการแล้ว หลังมีกระแสข่าวว่า พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ รองเต่า เรียกให้ สิบตำรวจโท ตำรวจคอมมานโด ที่ก่อเหตุใช้ภาพร่วมรักข่มขู่อดีตแฟน และหญิงสาวหลายคน ให้สมยอม และขายภาพลับในโซเชียล เข้ามาซักถามรายละเอียดและข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้วต่อมาก็มีกระแสข่าวว่า ไม่ต้องเข้ามาแล้ว จะให้ออกจากราชการเลย เพราะดูแล้วคดีมีมูล ไป ๆ มา ๆ ปรากฏว่าประมาณบ่าย 3 โมง ก็พบคนที่น่าจะใช่ "สิบตำรวจโท" ตำรวจคอมมานโด ผู้ก่อเหตุ ไปนั่งรอเข้าให้ข้อมูลกับ "รองเต่า" โดยเจ้าตัวแต่งกายมาในเครื่องแบบลำลองของตำรวจสอบสวนกลาง ใส่หมวกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนจะเข้าไปให้ข้อมูลในห้อง ก่อนที่ รองเต่า จะออกมาบอกกับสื่อมวลชนว่า เจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าทำจริง และอ้างว่าได้ชดเชยความเสียหายแล้ว แต่ทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นว่าเรื่องนี้จะปล่อยผ่านไม่ได้ ทั้ง ผบ.ตร. ทั้ง "บิ๊กก้อง" เน้นย้ำมาว่า "ต้องเอาจริง" โดยที่ประชุมมีมติให้ตำรวจนายนี้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากนี้จะเร่งขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อดูว่าเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์หรือไม่ และตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า ตกลงแล้วทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ส่วน "บิ๊กก้อง" เอง ก็บอกว่าจะรีบดำเนินการสอบสวนทางวินัยโดยเร็วที่สุด และจะเข้าไปช่วย ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี และท้องที่ไหนก็แล้วแต่ที่มีผู้เสียหายร้องทุกข์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับตำรวจนายนี้ให้ถึงที่สุด ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือลูกน้องที่กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด ขณะที่เมื่อวาน เพจเป็นหนึ่ง ยังได้พาผู้เสียหายไปร้องขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE ช่วยจัดการกับคนที่ปล่อยภาพลับ ที่ตอนนี้มีข้อมูลอยู่ 6 บัญชีผู้ใช้งาน โดยหนึ่งในคนที่ไปขอความช่วยเหลือ ยังเป็นเหยื่อรายที่ 5 ที่มาร้องขอความเป็นธรรมด้วย ที่ "รองเต่า" พูดว่า "ถ้ำเสือ" จริง ๆ คำนี้อาจไม่ใช่คำอุปมาอุปไมย แต่น่าจะหมายถึงชื่อ "ถ้ำเสือเมืองทอง" ตามที่ผู้สื่อข่าวซักถาม ซึ่งที่มาของชื่อนี้ ก็มาจากชื่อของกลุ่มตำรวจคอมมานโด ที่ผู้ต้องหารายนี้เป็นหนึ่งในนั้น เคยมีเรื่องที่มีคนพยายามจะเปิดโปงการกระทำของคนกลุ่มนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ได้นำเรื่องไปโพสต์ลงแอปฯ ติ๊กตอก แต่สุดท้ายคลิปนั้นถูกลบ และบัญชีก็ถูกปิดไปในเวลาต่อมา ขณะที่ข้อมูลเชิงลึกที่เราได้มา ก็พบว่าในกลุ่มนี้มีการรวมตัวกันอยู่หลายคน แต่จะมีพฤติกรรมเหมือน ๆ กัน หรือมีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ ต้องรอดูการขยายผลสืบสวน แต่ที่แน่ ๆ คนกลุ่มนี้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี