วัชรินทร์-ดีเอสไอ ลุยสอบปากคำลุงเปี๊ยก เผย จำได้หมดใครบังคับทรมาน ยันป้ากบไม่ใช่เมีย
วันที่ 5 มี.ค. 2567 เวลา 16:16 น.
มีจริง ถุงคลุมหัวบังคับรับสารภาพ วัชรินทร์-ดีเอสไอ ลุยสอบปากคำลุงเปี๊ยก เผย เจ้าตัวจำได้หมดใครบังคับทรมาน ยันป้ากบไม่ใช่เมีย ชี้รูปถูก ยันป้ากบไม่ได้เป็นเมีย คนเข้าใจผิดไปเอง วันนี้ (5 มี.ค.67) ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พร้อมด้วย นายปรัชญา ทัพทอง อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 รองหัวหน้าคณะทำงาน และคณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เดินทางมาสอบปากคำ นายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก ในคดีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีถูกเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมนางบัวผัน หรือป้ากบ โดย นายวัชรินทร์ กล่าวภายหลังการสอบสวนปากคำนายปัญญาเสร็จสิ้นว่า การสอบสวนในวันนี้มีพยานคนกลางคือหมอและพยาบาลอยู่ด้วย โดยการสอบสวนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของคดีนี้ที่มีอัยการเข้ามากำกับตรวจสอบการสอบสวน ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอเคยสอบปากนายปัญญาไปแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งเรามาตรวจสำนวนแล้วก็ยังต้องมีการสอบสวนในบางประเด็นที่สงสัยเพิ่มเติม วันนี้จึงเข้ามาสอบสวนร่วมกับดีเอสไอตามกฎหมาย และจากการสอบสวนพบว่านายปัญญาให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีอย่างมาก โดยยืนยันถึงคนที่กระทำต่อตนเองได้ว่ามีใครบ้าง กล้าชี้รูปถ่าย และกล้าให้การว่าใครทำอะไร รวมถึงจดจำเรื่องราวในวันนั้นได้หมด ถือว่าเป็นคนที่มีสติปัญญาให้การดีมากรู้เรื่องหมดเลย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จากการสอบสวนวันนี้ยังทราบว่านายปัญญาเคยบวชเรียนมาถึง7 พรรษาและตอนนี้อดเหล้าได้หมดเลย ซึ่งทางคุณหมอรับรองว่าอาการดีขึ้นเหมือนกับว่าจะหายจากอาการดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังต้องอยู่ในความคุ้มครองของทางโรงพยาบาลอีก 4 เดือนถึงจะหมดโปรแกรมรักษา แต่ก็ถือว่าการให้การครั้งนี้จำเรื่องราวทั้งหมด นอกจากนี้ วันนี้นายปัญญายังได้ยืนยันว่าตนเองไม่มีความสัมพันธ์กับป้ากบตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเป็นสามีภรรยากัน แต่มีแม่ค้าแถวนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสามีภรรยากัน เนื่องจากเป็นบุคคลเร่ร่อนเหมือนกัน ซึ่งความจริงแล้วนายปัญญามีบ้านของพี่ชายที่สามารถพักอาศัยได้อยู่ แต่ก็ไม่อยากอยู่เพราะชอบเป็นอิสระ ส่วนป้ากบก็มีบ้านอยู่เหมือนกัน แต่ไม่อยู่ก็ออกมาเร่ร่อน ซึ่งบางครั้งป้ากบชอบมายืนที่ศาลพระสยามเทวาธิราชจำลอง นายปัญญาเป็นคนไปไล่ป้ากบก็เลยมีประเด็นทะเลาะถกเถียงกันบ้าง เลยทำให้คนมองว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งกัน และในบางครั้งก็กินเหล้าเหมือนสนิทสนมกัน แต่ไม่มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาเหมือนที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายปัญญาประสงค์ที่จะอยู่ในการคุ้มครองพยานของดีเอสไอด้วย โดยหลังจากนี้หากออกจากโรงพยาบาลก็จะเข้าโปรแกรมคุ้มครองพยานและหลังจากเสร็จเรื่องคดีทั้งหมด นายปัญญามีความประสงค์ที่จะกลับไปบวชต่อ เมื่อถามว่า ประเด็นนำถุงคลุมหัวผู้เสียหายมีจริงหรือไม่ เเละมีการทรมานเเบบอื่นด้วยหรือไม่ นายวัชรินทร์ กล่าวว่า นายปัญญาให้การยืนยัน แต่ตอนนี้เรายังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร โดยนายปัญญายืนยันว่ามีการใช้ถุงคลุมหัวและบังคับให้รับสารภาพ ส่วนการทรมานก็คือใช้วิธีการขู่เข็ญบังคับโดยใช้อุปกรณ์บางอย่าง และเปิดแอร์ให้เย็นและพาไปบังคับให้รับสารภาพทำแผนจริง ถามต่อว่า หลังจากนี้ต้องสอบสวนนายปัญญาเพิ่มอีกหรือไม่ รองอธิบดีอัยการสอบสวน กล่าวว่า สำหรับนายปัญญา ตนยืนยันว่าเป็นการสอบสวนจนได้พยานหลักฐานที่ชัดเจนแล้ว สามารถใช้คำนี้ได้เลยขั้นตอนต่อไปก็จะสอบพยานอื่น ซึ่งเป็นพยานเเวดล้อม เเละพยานที่เกี่ยวข้องกับคดี จากนั้นจะไปพิจารณาเพื่อแจ้งข้อหากับตำรวจที่กระทำความผิด ซึ่งกรอบระยะเวลาคาดว่าภายในเดือน มี.ค.นี้ จะสอบพยานหลักฐานทุกอย่างให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นจะแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ถ้าผลการสอบสวนหรือพยานหลักฐานเกี่ยวข้องพันถึงใคร ก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นตำรวจระดับไหนที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็ถูกดำเนินคดีทั้งหมด