จับอดีตที่ปรึกษากฎหมาย แม่แตงโม หลอกฝากสมัครเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ

วันที่ 2 มี.ค. 2567 เวลา 05:16 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เป็นเรื่องอีกแล้ว เมื่อตำรวจทางหลวงขอตรวจค้นจับกุม อดีตที่ปรึกษากฎหมายของ "แม่แตงโม" คดีปลอมฯ, ใช้เอกสารปลอม, หมิ่นประมาทฯ หลัง "อุ๊งอิ๊ง" มอบตัวแทนแจ้งความดำเนินคดี ที่แอบอ้างไปหลอกว่าสามารถฝากคนเข้าไปเป็นปาร์ตีลิสต์ของพรรคเพื่อไทยได้ แต่ต้องแลกกับการจ่ายเงิน 40 ล้านบาท ข้อมูลตามการสืบสวนต้องย้อนไปช่วงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เริ่มจากที่ นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 3 คน ไปพูดคุยและชักชวน อดีต สส.พรรคเสรีรวมไทย ว่ามีตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20 ของพรรคเพื่อไทย "ว่างอยู่" แต่ต้องเสียค่าสมัครเป็นเงิน 40 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ยื่นลาออกจากพรรคเดิม แล้วไปสมัครเป็น สส. ของพรรคเพื่อไทย โดยมีการนัดหมายจ่าย "เงินสด" ก้อนแรก 20 ล้านบาท ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านลุมพินี จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็พยายามโน้มน้าวให้จ่ายเงินที่เหลืออีก 20 ล้านบาท ให้กับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่เพราะผู้เสียหายไม่ได้พบกับ นางสาวแพทองธาร จึงไม่มีการจ่ายเงินก้อนนี้เกิดขึ้น ก่อนที่ต่อมา พรรคเพื่อไทย จะประกาศรายชื่อ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งก็ไม่มีชื่อของผู้เสียหายอยู่ในนั้น ทำให้ตัวเองเชื่อว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ ต่อมา นางสาวแพทองธาร มาทราบข่าวว่ากลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของตนเอง แถมยังนำภาพไปตัดต่อหลอกลวงคนอื่น จึงมอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งไม่กี่วันก่อน นายชัยวัฒน์ ได้ขับรถไปตามถนนสายเอเชีย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วกล้องตรวจจับของ "ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย" แจ้งเตือนว่ามีรถเป้าหมายขับผ่านไป ตำรวจทางหลวงจึงวิทยุสกัดจับ ก่อนจะเชิญ นายชัยวัฒน์ ไปตรวจสอบหมายจับ แล้วควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ซึ่งเบื้องต้นเจ้าตัวก็ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จะขอไปให้การในชั้นศาล เมื่อวานนี้ตำรวจจึงคุมตัว นายชัยวัฒน์ ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ ฝากขังในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม, หมิ่นประมาทฯ ก่อนที่เจ้าตัวจะยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลเพื่อสู้คดี หลังมีข่าวนี้ออกมา ผู้สื่อข่าวก็โทร. ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับ นางสาวแพทองธาร ซึ่งก็ยอมรับว่าตอนแรกรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีคนหลงเชื่อ ส่วนตัวยืนยันไม่เคยรู้จักกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หลังทราบเรื่องนี้ก็ได้ให้ทนายความแจ้งความดำเนินคดี จึงเป็นที่มาของการจับกุมดังกล่าว เรื่องการดำเนินคดีหลังจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับศาล และส่วนตัวก็ไม่อยากให้มีคนอื่นถูกหลอกแบบนี้อีก