5 ปี คดีไม่คืบหน้า คลินิกศัลยกรรมไม่เยียวยาเหยื่อ

วันที่ 1 มี.ค. 2567 เวลา 07:18 น.

สนามข่าว 7 สี - รอมา 5 ปีแล้ว เป็นหนี้หลายสิบล้านบาท จะถูกโรงพยาบาลฟ้องขับไล่อยู่แล้ว แต่คดีไม่ไปถึงไหน คนเป็นพี่ชายจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือกับ "กัน จอมพลัง" ให้ช่วยตามคดีของน้องสาว ที่ไปทำศัลยกรรมแต่กลับต้องมาเป็นเจ้าหญิงนิทรา ที่ไม่รู้ว่าคดีจะไปถึงศาลได้เมื่อไหร่ จุดเริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในปี 2562 ที่ผู้เสียหาย ทำศัลยกรรมกับคลินิกแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ก่อนเริ่มทำศัลยกรรม ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง จนมีข้อสงสัยเพียงอย่างเดียว คือ คลินิกใช้ยาสลบเกินขนาด แล้วไปกดทับระบบทางเดินหายใจ การรักษากู้การหายใจ ล้มเหลวไม่ได้มาตราฐาน จนผู้เสียหายพิการทางสมอง ต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ อย่างที่บอกไปว่าคดีนี้เหตุเกิดปี 2562 ตอนนี้ปี 2567 เข้าสู่ปีที่ 5 เชื่อหรือไม่ คดียังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ทุกครั้งที่สอบถาม ตำรวจมักบอกว่า ต้องรอผลวินิจฉัยจากแพทยสภา เพื่อใช้ประกอบสำนวน ปรากฎปี 2565 แพทยสภา ก็ส่งคำวินิจฉัยมาให้ พอไปตามเรื่องอีก ก็บอกว่า ยังต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก รอจนถึงทุกวันนี้ คดีก็ยังอยู่กับตำรวจไม่ไปถึงไหน ถ้าเทียบกับที่ยื่นฟ้องคดีแพ่ง ศาลยังพิพากษามีผลออกมาแล้ว ให้คลินิกชดใช้ค่าเสียหาย 29 ล้านบาท แต่คลินิกยังไม่ชดใช้ ยื่นอุทธรณ์สู้ต่อ แต่ตอนนี้ที่จะรอต่อไม่ไหวแล้ว ก็เพราะแบกรับภาระหนี้ค่ารักษาพยาบาลน้องสาว เป็นเงินนับ 10 ล้านบาท แล้วเร็ว ๆ นี้โรงพยาบาลก็จะฟ้องขับไล่ เพราะไม่มีเงินใช้หนี้ พันตำรวจเอก พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร บอกว่า จริง ๆ ตนเอง ก็เพิ่งย้ายมารับตำแหน่งที่ สน.นี้ได้ไม่นาน เรื่องที่ล่าช้าไม่ขอพูดถึง แต่เดี๋ยวจะเรียกสำนวนคดีมาตรวจดู และเร่งรัดให้ดำเนินการ โดยวันที่ 5 มีนาคมนี้ จะเรียกแพทย์ผู้ทำศัลยกรรม มาแจ้งข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และจะรวบรวมหลักฐานเพื่อเรียกผู้เกี่ยวข้อง มาแจ้งข้อหาเดียวกันเพิ่มเติมอีก  ทั้งนี้หลังการแถลงข่าว ทีมข่าวได้ไปสังเกตการณ์คลินิกที่เกิดเหตุ ย่านซอยรัชดา 13 พบว่ามีคนงานกำลังเข้าไปเก็บของออกจากคลินิก เมื่อสอบถามกับผู้ดูแล ทราบว่าคลินิกสาขานี้กำลังจะย้ายไปที่ใหม่ย่านวังหิน เนื่องจากหมดสัญญาเช่าสิ้นเดือน จึงต้องรีบขนของออกจากพื้นที่ สอบถามกับเจ้าของคลินิก ก็ได้รับคำตอบว่า ให้ไปติดต่อขอคำชี้แจงจากแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดแทน ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าว