ระทึก พาวเวอร์แบงก์ระเบิดบนเครื่องบิน

วันที่ 25 ก.พ. 2567 เวลา 07:28 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เมื่อวาน (24 ก.พ.) เกิดเหตุการณ์ระทึก บนเครื่องบินที่กำลังเดินทางไปท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ขณะเครื่องบินลอยลำกลางอากาศ ในห้องโดยสาร 186 คน ต่างกรีดร้อง ชุลมุนกันใหญ่ สาเหตุเพราะพาวเวอร์แบงก์ระเบิด ระทึก พาวเวอร์แบงก์ระเบิดบนเครื่องบิน คลิปเหตุการณ์ความชุลมุนวุ่นวาย ที่เกิดขึ้นบนสายการบินหนึ่ง เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ขณะที่กัปตันกำลังพาผู้โดยสาร 186 คน จากท่าอากาศยานดอนเมือง เดินทางไปยังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช แต่หลังจากเครื่องบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ประมาณ 30 นาที ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นกลางลำเครื่องบิน บริเวณแถวที่นั่ง 15 ทำให้กลุ่มควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ผู้โดยสารทั้ง 186 ชีวิต ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเด็ก ต่างส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจ ส่วนลูกเรือบนเครื่องบินก็ช่วยกันควบคุมสถานการณ์ และช่วยกันดับเพลิงได้สำเร็จภายใน 2 นาที ท่ามกลางการลุ้นระทึกของผู้โดยสาร หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของสายการบินตรวจสอบพบว่า ต้นเหตุเกิดจากพาวเวอร์แบงก์ระเบิด ซึ่งทำให้เกิดรอยเพลิงไหม้สีดำเล็กน้อยบริเวณเบาะที่นั่งจุดเกิดเหตุ จากสารสอบถามผู้โดยสารเจ้าของพาวเวอร์แบงก์ทราบว่า เดินทางมากับครอบครัว 7-8 คน เพื่อไปเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนเกิดเหตุได้นั่งบนเครื่องตามปกติ แล้วนำพาวเวอร์แบงก์วางไว้ด้านหน้าบริเวณที่เก็บสัมภาระ และจู่ ๆ ก็เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ตนเองตกใจมาก แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับอันตราย รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม เจอเอง พาวเวอร์แบงก์ระเบิด ซึ่งหนึ่งในผู้โดยสาร คือ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งนั่งอยู่แถว 2 บอกว่ารู้สึกรู้ตกใจมาก ได้กลิ่นไหม้และมีควันโขมง ซึ่งท่านเองก็ยังเข้าไปช่วยเทน้ำใส่ถังอยู่เลย หลังทราบเรื่องก็อยากจะเรียกร้องให้ผู้บริโภค สายการบิน และเจ้าหน้าที่สนามบิน ตรวจสอบพาวเวอร์แบงก์ที่ผู้โดยสารจะนำขึ้นเครื่อง ต้องมีสัญลักษณ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เท่านั้น ซึ่งจะมีการทดลองคุณภาพมาตรฐานของสินค้าอย่างเข้มข้น เช่น การทนความร้อน ความจุไฟฟ้าที่กำหนด การทนความร้อนของวัสดุอุปกรณ์ ด้านสายการบินแจงถึงเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำผู้โดยสาร ขอให้ตรวจสอบคุณภาพ และขนาดของพาวเวอร์แบงก์ให้เป็นไปตามที่กำหนด คือ หากความจุเกิน 32,000 มิลลิแอมป์ ห้ามนำขึ้นเครื่องทุกกรณี และไม่ควรบรรจุลงในสัมภาระใต้ท้องเครื่องทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง