พ่อแม่เชิญดวงวิญญาน “น้องนุ่น” บอกไม่ต้องเป็นห่วงแม่จะดูแลลูกของนุ่นเอง ด้าน พฐ.เก็บหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมอายัดรถ

วันที่ 23 ก.พ. 2567 เวลา 14:31 น.

พ่อแม่เชิญดวงวิญญาน “น้องนุ่น” บอกไม่ต้องเป็นห่วงแม่จะดูแลลูกของนุ่นเอง ด้านพฐ.เก็บหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมอายัดรถ เชิญดวงวิญญาณน้องนุ่น วันนี้ ( 23 ก.พ.67)  ที่บ้านเช่า ย่านเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ. ปากเกร็ด เดินทางเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติมที่รถ นายศิริชัย หรือ ทอย อายุ 33 ปี สามีของนางสาวชลลดา หรือ นุ่น ซึ่งจอดอยู่ที่โรงจอดรถภายในบ้าน โดยบริเวณที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บอย่างละเอียด จะเป็นภายในรถยนต์ ที่นายทอยให้ข้อมูลว่า มีการทำร้ายนุ่นภายในรถยนต์ หลังจากที่นุ่นเสียชีวิตแล้วได้นำร่างของนุ่นใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วยัดใส่เบาะฝั่งซ้ายด้านหลังคนขับ ก่อนที่จะขับรถนำร่างไปเผาอำพรางที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตำรวจได้นำเอาแผ่นรองยางรองเท้าในรถออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด พบเศษอิฐ เศษหิน ที่คาดว่าน่าจะติดจากรองเท้าของทอยมา หลังจากได้นำร่างของนุ่นไปอำพราง นอกจากนี้ ตำรวจได้ถ่ายรูปด้านในรถไว้ทุกมุม เพื่อให้หลักฐานในคดีความแน่นและครบถ้วนสมบรูณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมภายในรถยนต์ของทอย ก่อนที่จะขับรถของทอยออกไป เพื่อไปตรวจสอบเพิ่มเติม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ทำการอายัดรถไว้เป็นของกลางในคดี โดยนำรถออกจากที่เกิดเหตุส่ง สภ.ปากเกร็ด ต่อมานางเพ็ญ แม่ของ น.ส.นุ่น ได้เดินทางมาพร้อมนายเอ อายุ 34 ปี เดินทางมาที่บ้านย่านเมืองทองธานี เพื่อทำพิธีเชิญวิญญานของนุ่น โดยเข้าไปภายในบ้านจุดที่นุ่นถูกทำร้าย จุดธูปเชิญวิญญาน พร้อมกับพูดบอกกับนุ่นว่า แม่กับพ่อเอาอาหารมาให้นุ่นและมารับนุ่นกลับบ้าน ตามแม่กลับบ้านด้วยกันนะ ส่วนลูกนุ่นไม่ต้องเป็นห่วงแม่จะดูแลเอง ด้านนายเอ ญาติลูกพี่ลูกน้องของนุ่นที่เดินทางมาด้วย ได้เดินไปตรงจุดที่มีรอยคราบเลือดนุ่นหลังบ้าน นั่งก้มหน้า อาเจียน น้ำตาไหล เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้สึกว่านุ่นเขารับรู้แล้วว่าญาติพี่น้องมาเชิญวิญญานเขา สาเหตุที่ตนรับรู้ได้เพราะตนปฏิบัติธรรมเกี่ยวกับกัมฐาน ซึ่งตอนแรกที่ตนเดินเข้ามาในบ้านเกิดอาการขนลุก ตนจึงอยากรู้จุดเกิดเหตุ เข้าไปทำพิธีในบ้านตัวตนเริ่มสั่น ตนมีความรู้สึกว่านุ่นอยากให้เดินไปที่จุดหลังบ้าน พอตนเดินมาตรงจุดที่มีคราบเลือด ตนยืนมอง ตัวสั่น มีอาการอาเจียน  ซึ่งน่าจะเป็นสัญญานว่านุ่นรับรู้ว่าครอบครัวมาเชิญเขากลับบ้าน ตนไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อย จะเป็นตอนที่เข้าไปปฏิบัติธรรมและอาการจะเกิดเวลาได้รับกระแสจิตหรือดวงวิญญาน แต่ไม่เคยรุนแรงเหมือนครั้งนี้ จนตอนนี้อาการยังไม่หาย ครั้งนี้ตนควบคุมตัวเองไม่ได้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะสื่อสารอะไร ถ้านั่งสมาธิตอนกลางคืนอาจสื่อสารได้มากกว่านี้  ซึ่งหลังจากนั้นนายเอ ได้สวดแผ่เมตตาให้นุ่นก่อนเดินทางกลับ ส่วนเมื่อเวลา 11.30 น.ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายชัยยา อายุ 49 ปี พ่อของนุ่น ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับเอกสารนำไปรับศพของนุ่น ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ นำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดดอนประทาย ต.หนองฮาง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี