3 ครอบครัวร้อง ถูกแก๊งวัยรุ่นลูกตำรวจรุมกระทืบ คดีไม่คืบ

วันที่ 21 ก.พ. 2567 เวลา 06:19 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - กัน จอมพลัง พา 3 ครอบครัว ที่เดินทางจากนครศรีธรรมราช นั่งรถไฟนานกว่า 16 ชั่วโมง มาร้องขอความเป็นธรรมที่ สตช. หลังลูกหลานถูกแก๊งเยาวชนลูกตำรวจรุมทำร้าย ทำตัวกร่างสร้างความวุ่นวายให้คนในพื้นที่ แจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบ ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มวัยรุ่นสวมใส่เสื้อแขนยาว 5-6 คน ยืนรอดักอยู่บริเวณลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา วัยรุ่นที่ยืนอยู่ก็กระโดดถีบจนล้ม แล้วรุมกระทืบ และชายเสื้อฮู้ดสีครีมหยิบอาวุธมีดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจ้วงแทงกระหน่ำหลายครั้ง ก่อนวิ่งหนีไป ส่วนคลิปวิดีโอแนวตั้งช่วงที่น้องคนถูกแทงมีพนักงานในห้างฯ ให้การช่วยเหลือ จะเห็นว่าคนเจ็บมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ส่วนอีกคลิปเป็นช่วงเวลาที่วัยรุ่นกลุ่มนี้วิ่งไล่เยาวชนอีกรายที่วิ่งหนีออกไปนอกห้างฯ วงจรปิดจับภาพไว้ได้ มีข้อมูลว่า วัยรุ่นกลุ่มที่ก่อเหตุกลุ่มนี้ มีลูกตำรวจรายหนึ่งในนครศรีธรรมราชเป็นหัวโจก ยังมีภาพวิดีโอของกลุ่มนี้ที่ถ่ายคลิปและอัปรูปสตอรี โชว์อาวุธปืนหลายกระบอก และภาพถ่ายยิงปืนเข้าใส่กำแพง โชว์ศักยภาพไม่เกรงกลัวกฎหมาย นอกจากนั้น ยังก่อเหตุทำร้ายวัยรุ่นอีกราย เมื่อคืนวันปีใหม่ 1 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. ที่ตลาดโต้รุ่งทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช วัยรุ่นกลุ่มนี้ยิงปืนใส่วัยรุ่นคนหนึ่ง จับมัดมือ ก่อนรุมทำร้าย ใช้มีดฟันและใช้ปืนข่มขู่ ตอนฟันยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้โดนบริเวณศีรษะ ทำให้ถูกฟันเข้าที่มือจนเอ็นขาด และมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะ และข้อเท้า ทำให้เมื่อวานนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองของเหยื่อวัยรุ่นกลุ่มนี้ 3 ครอบครัว นั่งรถไฟร่วม 16 ชั่วโมง มาจากนครศรีธรรมราช มาขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง โดยระบุว่า นอกจากไล่ดักทำร้ายเด็กวัยรุ่น ตอนกลางคืน วัยรุ่นกลุ่มนี้ยังขับรถไปตามหมู่บ้าน เอาปืนออกมายิงชาวบ้าน ในกลุ่มคนก่อเหตุมีลูกตำรวจในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวอะไร อีกทั้งหลังก่อเหตุไม่รู้ใช้วิธีไหน เอากล้องวงจรปิดในพื้นที่ออกมาโพสต์ลงสตอรี โชว์ว่าไปไล่กระทืบคนมา แถมชอบโพสต์โชว์ปืนเป็นประจำ โดยเหยื่อที่ถูกแทงทั้ง 2 เคส ไปแจ้งความแล้วตำรวจเงียบ บอกเคสเยาวชน ทำยาก กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบแก๊งนี้ มีสมาชิกทั้งหมด 40-50 คน แถมยังมีลูกตำรวจอยู่ด้วย ตนเรียกว่า แก๊งทะลุถุง จะก่อเหตุไปเรื่อย ประกาศศักดา คอยไล่ยิง ไล่ฟัน เด็กในพื้นที่ หลังเกิดเหตุแทงเคสแรก คุณยายของผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า เป็นคดีเยาวชน จับตัวยาก ดำเนินคดียาก ตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งหลานไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ทำให้คุณยายต้องเดินทางไปสถานีตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่ตำรวจก็ปฏิเสธไม่รับแจ้งความ บอกให้ผู้ปกครองเด็กมาแจ้งความเอง ทั้งที่ชี้แจงแล้วว่าเด็กไม่มีพ่อแม่ คุณยายวัย 72 ปี บอกว่า หลานชายถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ไต ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงชักชวนพรรคพวกมาชี้เป้าที่บ้านของตน และมาก่อความวุ่นวายใช้อาวุธปืนยิงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้าน คุณแม่ของเด็กที่ถูกทำร้ายในตลาดโต้รุ่งทุ่งสง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เธอไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดแต่ทางตลาดปฏิเสธ อ้างว่าต้องให้ตำรวจเป็นคนมาขอ แต่ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีคลิปกล้องวงจรปิดมาโพสต์อวดลงโซเชียลเพื่อยั่วยุ เธอจึงสงสัยว่าทำไมเด็กกลุ่มนี้เข้าถึงวงจรปิด ทั้งที่เป็นผู้ก่อเหตุ เธอบอกว่า หลังเกิดเรื่องได้ไปแจ้งความแล้ว ทางตำรวจไม่ดำเนินการใด ๆ แต่ถามกลับทางผู้ปกครองว่า ทำไมเวลามีเรื่องต้องมาร้องให้ตำรวจช่วยเหลืออยู่ตลอด ทำไมไม่ไปหาผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนันบ้าง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุมักวนเวียนมาหน้าบ้านบ่อย ๆ ส่วนคุณแม่เยาวชนอีกคน เล่าว่า ลูกชายไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใน อำเภอทุ่งสง พบว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้คอยเดินตาม จึงตัดสินใจกลับบ้าน แต่ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมาล้อมรถและรุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟันมาที่หลัง อีกทั้งยังฉกเสื้อที่เพิ่งซื้อมาไปอีกด้วย เคราะห์ดีที่ลูกชายวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ทัน ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ลงโซเชียลเยาะเย้ยเช่นเดิม แต่พอคุณแม่ไปถามทางห้างฯ กลับไม่ได้รับความร่วมมือ จึงสงสัยว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุนำคลิปดังกล่าวมาจากไหน กัน จอมพลัง นำกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหลังรับเรื่อง ทาง พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธร ภาค 8 ประสานทางผู้การจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียกประชุม ตอนนี้ทราบตัวของผู้ก่อเหตุหมดแล้ว  ส่วนเรื่องพนักงานสอบสวนที่ใช้วาจาไม่เหมาะสม จะตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากพบว่าผิดวินัยตำรวจ จะดำเนินการทางด้านวินัยอย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งภายหลังจากการยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มีความคืบหน้าที่ สภ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทันที เมื่อหนึ่งในลูกตำรวจพ่อพาไปมอบตัว