DSI ทลายโกดังไลฟ์ขายสินค้าไม่ผ่าน มอก.
วันที่ 15 ก.พ. 2567 เวลา 07:13 น.
สนามข่าว 7 สี - ดีเอสไอ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกค้นโกดังจำหน่ายสินค้าออนไลน์เจ้าดังเมืองยะลา หลังถูกร้องเรียนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. ยึดสินค้าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ไปตรวจสอบ ลงสนามข่าวนี้กับคุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์ หลังได้หมายค้นของศาลจังหวัดยะลา ให้ค้นบ้านหรูและโกดังสินค้าแห่งหนึ่งในตำบล สะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ที่ได้รับการร้องเรียนว่าจัดเก็บสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ผ่านพิธีการศุลกากร และจำหน่ายสินค้าไม่ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. ผ่านช่องทางออนไลน์ใน Facebook ที่มีผู้ติดตามกว่า 2,600,000 คน และ TikTok อีกหลายแสนคน นายชยพล สายทวี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ค้นเป้าหมายทันที จุดแรก เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรู 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด ภายในมีสระว่ายน้ำ มีสวนหย่อมสวยงาม ในโรงรถก็มีรถหรูหลายคัน เจ้าของบ้านเป็นชายอายุ 32 ปี พบเจ้าหน้าที่รับทราบหมายค้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ค้นบนชั้น 2 พบกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังจำนวนมาก ถูกเก็บไว้อย่างดี จุดที่สองเป็นโกดังขนาดใหญ่ 2 ชั้น อยู่หลังบ้าน พบแบ่งโซนคลังสินค้า จุดไลฟ์สดขายสินค้า จุดบรรจุสินค้า และออฟฟิศเป็นสัดส่วน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลังสินค้าละเอียด โดยเฉพาะโซนเครื่องใช้ไฟฟ้า พบหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า เตาปิ้งย่างไฟฟ้า เตารีดไอน้ำ พัดลม ลำโพงบลูทูท รวมทั้งพบจักรยานเด็ก ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. และพบสินค้าอุปโภค ยาสีฟัน เครื่องสำอาง ครีมบำรุงหน้า ที่มีเลขทะเบียน อย. ซึ่งสาธารณสุขต้องตรวจสอบ เลขทะเบียนถูกต้อง หรือ สวมทะเบียน เพราะราคาต่ำกว่าตลาด สินค้าที่เจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบ หากจำหน่ายได้ คาดว่ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แต่หากพบไม่ผิดกฎหมาย ก็จะคืนให้เจ้าของ ซึ่งการดำเนินการของดีเอสไอ ยืนยันเป็นการปกป้องสิทธิผู้บริโภค ขณะที่สินค้าบางตัว ข้างกล่องมีสัญลักษณ์ มอก. จึงคัดแยกไปตรวจสอบว่า เป็น มอก. แท้หรือไม่ ส่วนโทษผู้จำหน่ายสินค้าไม่มีมาตรฐาน มอก. ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท และจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ เจ้าของโกดัง เป็นชาย อายุ 32 ปี เผยว่า ตนกับภรรยาขายสินค้าออนไลน์มา 6 ปี ยืนยัน ไม่ได้สั่งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ แต่สั่งจากเอเยนต์ที่กรุงเทพมหานคร และขณะนี้มีสต๊อกสินค้ามูลค่าราว 4 ล้านบาท ส่วนสินค้าที่ถูกยึด 10-20 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมดเท่านั้น