เหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์ เปิดใจ ถ้าพลาดคุยกับมิจฉาชีพเพียง 2 นาที อาจถูกดูดเงินหมดบัญชี
วันที่ 12 ก.พ. 2567 เวลา 15:37 น.
เหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานให้แก๊งคอลเซนเตอร์ เปิดใจ ถ้าคุณพลาดคุยกับมิจฉาชีพเพียง 2 นาที ระวังอาจถูกดูดเงินหมดบัญชี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กดลิงก์อะไรเลย พลาดคุยกับมิจฉาชีพ อาจถูกดูดเงินในบัญชี วันนี้ (12 ก.พ.67) จากการที่ผู้เสียหายถูกผู้ใช้บัญชีในเฟซบุ๊กผู้หญิงคนหนึ่ง ชวนไปทำงานที่กาลิโน ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก็หลงกลข้ามประเทศไป เพราะคิดว่างานถูกกฎหมาย ก็เดินทางไปที่ อำเภออรัญประเทศ ข้ามประเทศไป แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกพาเข้าไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์ จะหนีก็ไม่ได้ต้องจำยอมทำงานไป จากการสังเกต เห็นว่าที่ทำงานมีลักษณะคล้ายเรือนจำ มีหลายอาคาร มีรั้วล้อมลวดหนาว สูง 4 เมตร หนียาก อุปกรณ์ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกคน เป็นเครื่องดูดเงิน 4 เครื่อง ดูดเงินได้ 70 บัญชีต่อวัน มีคนจีนเป็นผู้ควบคุมเครื่อง ส่วนวิธีการทำงานไม่ซับซ้อน แค่โทรศัพท์ไปหาคนไทยเพื่อให้ยืนยัน ชื่อ-สกุล เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ และเลขบัญชีธนาคาร หน้าที่ของผู้เสียหายมีแค่พยายามชวนคุยให้ได้ครบ 2 นาที เท่านั้นก็พอ เหยื่อส่วนใหญ่ จะล็อกเป้าไปที่ข้าราชการระดับสูง ข้าราชการเกษียณ และนักธุรกิจคนไทย ที่มีเงินในบัญชี 2 ล้านขึ้นไป ซึ่งข้อมูลพวกนี้ได้มาจากการซื้อ ซึ่งหลุดมาจากธนาคารของรัฐ , ศูนย์ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์สาขาย่อย เช่น 1,600 รายชื่อ ขายในราคา 10 ล้านบาท ซึ่งตอนที่หลบหนี ใช้ผ้านวมพาดไปยังรั้วลวดหนาม ขึ้นไปยังชั้น 5 กระโดดข้ามรั้ว แล้วเรียกรถ 3 ล้อ ไปส่งที่หน้าด่านอรัญประเทศ ขอยืมโทรศัพท์โทรไปขอยืมเงินจากผู้คุมซึ่งเป็นคนไทยด้วยกัน มาจ่ายค่ารถและค่าข้ามประเทศ ก่อนจะมุดเข้าช่องทางธรรมชาติ กลับเข้ามาในไทยได้สำเร็จ คดีนี้ เพจสายไหมต้องรอด ประสานกับตำรวจ บช.สอท. และหน่วยงานต่าง ๆ ไปแล้ว ก็ต้องฝากเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นด้วย