ภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ปะทุเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

วันที่ 9 ก.พ. 2567 เวลา 09:00 น.

ภูเขาไฟที่ไอซ์แลนด์ปะทุขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยลาวาที่ไหลออกมาสร้างความเสียหายให้ท่อน้ำร้อนใต้พิภพ จนชาวบ้านไม่มีน้ำร้อนใช้ แต่พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่กลางอากาศหนาวติดลบ ภูเขาไฟทางตะวันตกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ ในคาบสมุทรเรคยาเนส ปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วตั้งแต่การปะทุเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังเกิดการปะทุภูเขาไฟได้พ่นลาวาร้อนขึ้นสูงถึง 80 เมตร และยังเกิดควันดำหนาลอยไกลว่า 3 กิโลเมตร ด้วย โดยลาวาได้ไหลไปตามพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงเรคยาวิก จนทำให้ท่อสำหรับจ่ายน้ำร้อนใต้พิภพให้กับบ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่พบว่ามีประชาชนมากกว่า 20,000 คนไม่สามารถใช้น้ำร้อนสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ ท่ามกลางอุณหภูมิภายนอกที่ติดลบ 7 องศาเซลเซียส และคาดว่าอุณหภูมิอาจลดลงอีกจนถึงติดลบ 10 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบให้สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดการปะทุราว 20 กิโลเมตรไม่สามารถใช้น้ำร้อนได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นเหตุให้หน่วยงานคุ้มครองพลเรือนของไอซ์แลนด์ต้องยกระดับประกาศภาวะฉุกเฉิน และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ประกาศปิดโรงเรียนทั้งหมดในวันนี้ เพื่อความปลอดภัยแล้ว อีกทั้งยังได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประหยัดการใช้ไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด โดยแนะนำให้ใช้เครื่องทำความร้อนขนาดเล็กเพียงเครื่องเดียวต่อ 1 ครัวเรือน เพื่อป้องกันไฟดับในระหว่างรอการฟื้นฟูท่อน้ำร้อน ที่คาดว่าอาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ขณะที่ยังเกิดความกังวลด้วยว่า โรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพสวาร์ตเซนกิ (Svartsengi) จะได้รับผลกระทบ หลังลาวาไหลเข้าใกล้โรงไฟฟ้ามากขึ้นซึ่งตอนนี้อยู่ห่างเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เมื่อวาานนี้ทางการท้องถิ่นต้องสร้างแนวกั้นขนาดเท่ากับอาคาร 3 สูงชั้นเพื่อปกป้องโรงไฟฟ้าแห่งนี้ โดยหัวหน้าทีมหน่วยคุ้มครองพลเรือนและการจัดการเหตุฉุกเฉินของไอซ์แลนด์บอกด้วยว่าอาจไม่สามารถหยุดการไหลของลาวาได้ทันแต่การเปลี่ยนเส้นทางของมันจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาภูเขาไฟลูกนี้เคยปะทุมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 14 มกราคม ซึ่งหลังจากนั้น 2 วัน ลาวาได้ไหลไปถึงบริเวณรอบนอกของเมืองประมงกรินดาวิก ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่เกือบ 4,000 คน ต้องอพยพออกไปและพบว่ามีบ้านหลายบางหลังถูกลาวาเผา หรือหากย้อนไปเมื่อปี 2553 ภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ เกิดการปะทุครั้งใหญ่จนสร้างผลกระทบไปทั่วยุโรป และทำให้เที่ยวบินกว่า 100,000 เที่ยว ในขณะนั้นต้องยกเลิก และยังส่งผลให้ชาวไอซ์แลนด์หลายร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านด้วย ทั้งนี้ ไอซ์แลนด์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับรัฐเคนตักกีของสหรัฐฯ ยังมีภูเขาไฟมีพลังที่ยังคุกรุ่นอยู่อีกมากกว่า 30 ลูก ทำให้กลายเป็นจุดขายของไอซ์แลนด์ และทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดภูเขาไฟเดินทางมาเยือนจำนวนมากในทุกปี