คู่รัก ร้องสื่อฯ ถูกสลับธนบัตรปลอม หลังซื้อ-ขายทองแก๊งต่างชาติ สูญกว่า 1 ล้านบาท

วันที่ 3 ก.พ. 2567 เวลา 04:31 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตอนนี้มิจฉาชีพในประเทศไทย ไม่ได้มีแค่คนไทยแล้ว มีคู่รักถูกชาวต่างชาติหลอกซื้อ-ขายทอง ทำสูญเงินไปกว่า 1 ล้านบาท คุณกาญจน์รฎา คนเฉียบ หรือ กุ้ง ผู้เสียหาย พร้อมแฟนหนุ่ม ร้องเรียนกับทีมสนามข่าว 7 สี ว่าวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อนคนสนิทชักชวนให้ลงทุนทองคำด้วยกัน โดยจะรับซื้อทองคำจากชาวต่างชาติในราคาต่ำกว่าตลาด แล้วนำไปขายต่อในราคาตลาด โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องใช้เงินดอลลาร์ ในการซื้อ-ขายเท่านั้น ซึ่งพอคำนวณดูแล้ว เห็นว่ากำไรดี กำไรหลักแสน จึงรับข้อเสนอ และนัดเจอกันที่โรงงานหลอมทอง ในวันที่ 19 มกราคม 2567 แต่พอถึงวันนัด เพื่อนคนสนิทกลับพาทั้ง 2 คน เข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ แทน แฟนคุณกุ้งจึงอาสาเข้าไปเจราจา และให้คุณกุ้งรออยู่บนรถ ซึ่งเมื่อเข้าไปให้ห้อง ก็เจอชาวต่างชาติผิวดำ 2 คน คือ นายฟิลลิป และนายเจสัน ชื่อปลอมในพาสปอร์ต แล้ว นายเจสัน ก็บอกว่าขอดูเงินหน่อยว่าเอามาครบตามจำนวนที่ตกลงกันไหม ซึ่งพอนับเสร็จ นายเจสันก็วางเงินไว้บนโต๊ะใกล้กระเป๋าของตัวเอง และให้โทรหา คุณกุ้ง ให้เอาเครื่องชั่งมาให้ที่ห้อง หลังตวงทองคำใส่ถุงได้ 1 กิโลกรัม จู่ ๆ นายเจสัน ก็วางถุงใส่ทองคำลง แล้วคว้าเงินจะใส่กระเป๋าตัวเอง แต่เพื่อนคนสนิทหันไปเห็นพอดี จึงเกิดการยื้อแย่งกัน แล้วโยนเงินปึกนั้นให้แฟนคุณกุ้งเก็บใส่กระเป๋า และออกจากห้องทันที ก่อนที่ชาวต่างชาติจะมาเจรจาใหม่ ชวนไปเช็กทองคำที่โรงหลอมทอง ระหว่างเดินทางชาวต่างชาติกลับหนีหายไป ซึ่งเมื่อเพื่อนคนสนิทสอบถาม อีกฝ่ายบอกว่ามีคนไทยมากันเยอะเกิน มันดูน่ากลัว แล้วธนบัตรที่ถูกเปลี่ยนเป็นของปลอม ไม่ใช่น้อย ๆ เพราะเป็นเงินกว่า 34,700 ดอลลาร์ หรือราว 1,200,000 กว่าบาท เลยให้เพื่อนคนสนิทติดต่อชาวต่างชาติ แต่สุดท้ายคว้าน้ำเหลว จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ลุมพินี พร้อมหลักฐานที่มีทั้งหมด แต่ตำรวจก็เหมือนกั๊กคดีไม่ตามต่อให้ ถึงแม้จะทราบพิกัดคนร้าย ก็อ้างว่าต้องทำเรื่องหลายขั้นตอนเพื่อขอกล้องวงจรปิด พวกเธอจึงต้องลงสนามเอง จนได้กล้องวงจรปิดพร้อมหลักฐานเพิ่มเติม แต่คดีก็ยังไม่คืบ แม้จะผ่านมาแล้ว 15 วัน ทั้งนี้ ทีมสนามข่าว 7 สี ลงพื้นที่ไปดูบริเวณซอยสุขุมวิท 11 พบชาวต่างชาติเดินขวักไขว่กันเต็มซอย และลองนำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายให้คนแถวนั้นดู ปรากฏว่าทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันเลย ว่าเคยเจอเป็นประจำ แต่น่าแปลก ทั้ง ๆ ที่คนร้ายอยู่ใต้จมูก แต่ทำไมตำรวจจึงไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้