จบคดีชาวเยอรมัน อ้างจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่ไทย 1 ล้านบาท
วันที่ 29 ม.ค. 2567 เวลา 11:06 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - จากข่าวอื้อฉาวในสารคดีข่าวต่างประเทศ พูดถึงการติดสินบนข้าราชการไทย แลกกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวเยอรมัน คดีซื้อประเวณีเยาวชนหญิง ไม่กี่วันก่อน "บิ๊กโจ๊ก" บินไปคุยกับทางการเยอรมนี ได้ข้อสรุปว่าเรื่องดังกล่าว ถูกบิดเบือนจากนักข่าวที่ต้องการเรียกเรตติง ด้วยการโจมตีประเทศไทย พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปข่าวอื้อฉาวที่ว่านี้ ว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ยอมรับกับตำรวจประเทศเยอรมนี ว่าได้ซื้อประเวณีเด็กหญิงไทย 3 ครั้ง เมื่อเดือนกันยายน ปี 2565 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยอ้างว่า เพื่อนพาไปที่บาร์ที่เกิดเหตุ และก่อนจะพา "ผู้หญิง" ที่บาร์กลับไปที่พักด้วย โดยคิดว่า น่าจะบรรลุนิติภาวะแล้ว เพราะเห็นทำงานในบาร์ได้ แถมยังมีการแสดงบัตรประชาชนให้กับที่พักด้วย ส่วนกรณีที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนี อ้างว่าตนติดสินบนผู้พิพากษา ตำรวจ และอัยการ 1 ล้านบาท เพื่อออกจากประเทศไทยนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพียงแต่จ่ายเงินเป็นค่าประกันตัว 200,000 บาท ในครั้งแรก และอีก 500,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันศาลฯ เพื่อขอกลับไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัว ที่ประเทศเยอรมนี แต่สุดท้ายไม่สามารถกลับไทยได้ตามกำหนด เพราะติดโควิดและมีอาการหัวใจวาย ต่อมาก็ถูกตำรวจไทยประสานตำรวจสากลขอออกหมายจับ จึงถูกจับกุมที่เยอรมนีในเวลาต่อมา ส่วนเหตุที่ยินยอมให้สัมภาษณ์ เพราะคิดว่าจะมีการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่สุดท้ายกลับบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้ยอดผู้ชม ยืนยันว่าตำรวจ อัยการ และตุลาการไทย ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ ซึ่งผู้ต้องหา บอกด้วยว่า จะแจ้งความดำเนินคดีกับ บุคคลที่ทำให้ตนเองได้รับผลกระทบ และเสียหาย ขณะที่ทางการไทย หลังจากนี้จะทำบันทึกถึงอัยการเยอรมนี เพื่อให้ข้อมูลกับทางการเยอรมนี นำข้อมูลไปดำเนินคดีนี้ต่อ โดยที่ไม่ต้องส่งตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในไทยอีก ส่วนผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกา ที่หลบหนีไปอีกคน ทางการไทยได้ประสาน FBI ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนจะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยหรือไม่ ต้องหารือกันอีกครั้ง