มท.1 นำทีม ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกจับผับชื่อดังย่านอ้อมน้อย
วันที่ 27 ม.ค. 2567 เวลา 08:28 น.
วันนี้ (27 ม.ค. 67) เวลา 02.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทีมกรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมสถานบริการละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา หนำซ้ำยังยินยอมให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยนายอนุทิน เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนว่าในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีสถานบริการชื่อดังย่านอ้อมน้อย มีการปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ และยังแสดงดนตรีส่งเสียงดังรบกวนชุมชน เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอวดอ้างว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน จึงขอให้กรมการปกครองทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองจึงส่งสายลับเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงต่อเนื่อง กระทั่งพบว่าสถานบริการดังกล่าวมีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน ต่อมาในคืนวันที่ 26 ม.ค. 67 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 27 ม.ค. 67 ชุดสายลับจึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม เพื่อเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบริการนี้ทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบนักเที่ยวจำนวนมากกำลังดื่มด่ำบรรยากาศความสนุกสนานกันอย่างเมามันส์ เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นักเที่ยวต่างแตกตื่น โยนยาเสพติดทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มพื้น และพยายามหลบหนี โดยดันประตูหลบหนีออกไป แต่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองก็ได้ควบคุมนักเที่ยวที่เหลือไว้ได้จำนวนหนึ่ง และประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แล้วจึงให้เจ้าพนักงาน ปปส. ภาค 7 ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนักเที่ยวทุกราย พบผู้มีสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 77 ราย แยกเป็น ชาย 38 ราย และ หญิง 39 ราย ทั้งนี้ มีพนักงานของทางร้านรายหนึ่ง เปิดเผยกับสายลับ ว่า “ผับนี้มีแต่คนเล่นยา” ทั้งนี้ทางพนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน และร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ 1. เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด,2. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ,3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 4. จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อีกทั้งการกระทำของสถานบริการดังกล่าว ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ออกหนังสือคำสั่งพิจารณาปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนายอนุทินฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า สถานบริการแห่งนี้เคยเปิดให้บริการในชื่ออื่น และถูกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุมฐานเปิดผับอัพยาและถูกสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี มาแล้วเมื่อปี 2561 มาถึงปัจจุบัน ตัวอาคารเดิมถูกลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วปรับปรุงใหม่ โดยใช้ชื่อร้านใหม่ แต่กระนั้นก็ยังประกอบธุรกิจท้าทายกฎหมายซ้ำอีกครั้ง และจากการสืบสวนทางลับพบเป็นผับที่มีผู้อิทธิพลในพื้นที่หนุนหลังอีกด้วย โดยหลังจากนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะนำเรื่องส่งต่อไปยังคณะกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป