เลื่อนอ่านคำพิพากษา ผู้ปกครองวัยรุ่นฆ่า ป้าบัวผัน

วันที่ 25 ม.ค. 2567 เวลา 04:05 น.

เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว บุกค้นแฟลตตำรวจ และบ้านพัก 5 วัยรุ่นร่วมฆ่า "ป้าบัวผัน" เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ปกครอง ศาลเยาวชนฯ เลื่อนอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 13 มีนาคม 2567 พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้คุมตัวผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ที่ก่อเหตุฆ่าโหด "ป้าบัวผัน" ไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว เพื่อนำทั้งหมดไปยังศาลเยาวชน และครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ดำเนินคดี หลังเมื่อวานนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหา "บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือ ยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรฯ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พ.ศ.2546" ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลเยาวชน แจ้งว่า ศาลได้เลื่อนฟังคำพิพากษา ไปเป็นวันที่ 13 มีนาคม 2567 พร้อมมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะพฤติกรรมจำเลยก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งมีรายงานว่าผู้ปกครองทั้งหมดยอมรับหากมีการลงโทษทางกฏหมาย ส่วนการเร่งหาพยานหลักฐานดำเนินคดีกับเยาวชนทั้ง 5 คน ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำหมายศาลเข้าตรวจตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในอำเภออรัญประเทศ และอำเภอโคกสูง เข้าตรวจค้นห้องพักพ่อของ นายกัส ที่แฟลตตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เบื้องต้น ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนตำรวจชุดอีก เข้าตรวจค้นบ้านพักของ "นายเชน" หัวหน้าแก๊ง ที่ถนนแขวงการทาง ตำบล-อำเภออรัญประเทศ เบื้องต้นพบปืนบีบีกันวางอยู่ในตู้โชว์ 2 กระบอก ตำรวจจึงยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นบ้านของ "นายแบงค์" ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกลนัก เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และตำรวจชุดสืบสวนอีกชุด ก็เข้าตรวจค้นบ้านพักของ "นายโก๊ะ" ซึ่งก็อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอีกเช่นกัน และจุดสุดท้าย  เข้าตรวจค้นบ้านของ "นายบิ๊ก" ในตำบลหนองแวง อำเภอโคกสูง เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนคดีนี้ ถือตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คน เคยก่อเหตุความรุนแรงทำร้ายคู่อริก่อนหน้าคดีป้าบัวผัน และมีคดีเกี่ยวกับทางเพศ ในพื้นที่รวมทั้งหมดถึง 11 คดี สามารถปิดคดีได้แล้ว แต่อีกคดีที่เพิ่งจะเริ่มต้น คดีที่ ลุงเปี๊ยก ถูกคลุมถุงดำ และบังคับให้ถอดเสื้อในห้องแอร์เย็น ๆ นานกว่า 9 ชั่วโมง เพื่อทรมานให้ ลุงเปี๊ยก รับสารภาพว่าฆาตกรรม ป้าบัวผัน ผู้เป็นภรรยา จน ลุงเปี๊ยก เกือบกลายเป็นแพะในคดีดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวานนี้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงนามในหนังสือแจ้งเรื่องการสอบสวนว่ารับคดี ลุงเปี๊ยก เป็นคดีพิเศษแล้ว เนื่องจาก ลุงเปี๊ยก ถูกตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ทำให้หลังจากนี้สำนวนคดีบังคับให้ ลุงเปี๊ยก รับสารภาพนี้ ก็จะถูกโอนไปอยู่ในความดูแลของดีเอสไอ และดีเอสไอยังขอให้อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เข้าตรวจสอบ หรือ กำกับการสอบสวนด้วยตามกฎหมาย