DSI เรียกประชุมใหญ่คดีเนื้อสัตว์เถื่อน

วันที่ 23 ม.ค. 2567 เวลา 11:18 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - DSI สอบปากคำ "เฮียเก้า" ผู้ต้องหาคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อนจนถึงกลางดึก โดยสรุปแล้วให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งจากพยานหลักฐานที่มีอยู่จำนวนมาก ทำให้วันนี้ DSI เรียกประชุมเพื่อวางแนวทางการสอบสวน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เราจะไปติดตามรายละเอียดเรื่องนี้กับคุณพิธพงษ์ จตุรพิธพร รายงานสดจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อน ประชุมวางกรอบการสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมตัว นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า 1 ใน 5 ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์, อั้งยี่ซ่องโจร และร่วมกันฟอกเงิน หลังเดินทางมาจากประเทศจีน เพื่อขอต่อสู้คดี โดยพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุม หารือความคืบหน้าทางคดีต่าง ๆ ทั้งเรื่องของหมูเถื่อน 161 ตู้ และคดี 2,000 กว่าตู้ และการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิจารณาเตรียมเชิญข้าราชการระดับสูง และข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ด้านรักษาราชการแทน อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคณะพนักงานสอบสวนอาจจะเชิญระดับ ผอ. กองที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกตีนไก่ รวมถึงสัตวแพทย์ประจำโรงงานอย่างน้อย 4 โรงงานมาสอบปากคำ โดยจะเริ่มเรียกมาสอบปาคำในช่วงสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ส่วนระยะเวลานัดหมายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนเจ้าหน้าที่จะเรียกส่วนที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องโควตาการส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน การควบคุมและดูแลคุณภาพและสินค้าที่จะนำส่งออกหรือนำเข้า ว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องหรือกำหนดรายละเอียดดังกล่าว ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีของ "เฮียเก้า" ที่ให้ปากคำยอมรับว่ารู้จักกับ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการในสังกัดในกระทรวงฯ โดยไม่ได้เปิดเผยว่ารู้จักหรือสนิทกับบุคคลเหล่านี้ระดับไหน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้ปากคำ แต่พนักงานสอบสวนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อไป ด้าน พันตำรวจตรี ณฐพล ให้ข้อมูลถึงผลการสอบปากคำเฮียเก้า ว่า คณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนาน 6 ชั่วโมง ใน 30 ประเด็น มีบันทึกถ้อยคำให้การกว่า 40 หน้ากระดาษ เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายประเทศจีน ส่วนในประเด็นอื่น ๆ ที่ผู้ต้องหาไม่ได้ตอบ จะทำการส่งเป็นเอกสารชี้แจงในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการรู้จักกัน หรือมีความสัมพันธ์กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของเฮียเก้านั้น เจ้าตัวให้การว่ารู้จักกันมานาน ตั้งแต่รุ่นปู่ เพราะประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าทางการเกษตร จึงต้องเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวง ส่วนกรณีหัวหน้าพรรคชื่อดัง อดีต รมว.เกษตรฯ เฮียเก้าให้การว่าเป็นการรู้จักกันในรุ่นปู่ จึงมีบ้างที่อาจมีการไปมาหาสู่กันปกติ แต่ในช่วงที่เฮียเก้าต้องการเข้ามาทำงานและลงหลักปักฐานที่ประเทศไทย ได้ติดต่อกับพี่ชายของอดีตรัฐมนตรี ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ เฮียเก้าปฏิเสธว่าไม่รู้จัก แต่ยอมรับว่ามีบางส่วนที่เฮียเก้าให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอยู่ เช่น มีการเปิดเผยรายชื่อของบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนเพิ่มเติม หรือมีขั้นตอนการติดต่อประสานงานกันอย่างไร ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มข้าราชการ กลุ่มบริษัทชิปปิงเอกชน ส่วนเรื่องสมาคมการค้าฯ ที่เฮียเก้า เป็นนายกสมาคม มีรายชื่อที่ปรึกษาและกรรมการจึงมีแต่คนใหญ่คนโตในแวดวงทหาร นักการเมือง และตำรวจนั้น เฮียเก้าไม่ตอบคำถาม แต่จะขอกลับไปรวบรวมข้อมูลแล้วมาชี้แจงภายหลัง