สั่งฟัน 2 ตำรวจ ผิด ม.157 ถุงคลุมหัวลุงเปี๊ยก บังคับรับสารภาพคดีป้าบัวผัน
วันที่ 20 ม.ค. 2567 เวลา 15:49 น.
ผลสอบออกแล้ว! สั่งฟัน 2 ตำรวจ ผิด ม.157 ถุงคลุมหัวลุงเปี๊ยก บังคับรับสารภาพคดีป้าบัวผัน 20 ม.ค. 67 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายดาบตำรวจใช้ถุงคลุมศีรษะนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก ให้รับสารภาพคดีฆาตกรรมนางบัวผัน หลังจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เวลา 3 วัน พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวถึงข้อสรุปว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ถูกเอาผิดทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจ จำนวน 2 นาย คือนายดาบตำรวจ และรองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ และได้แจ้งข้อกล่าวหานายดาบตำรวจ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 กรณีที่ใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายปัญญา แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนตำรวจทั้ง 2 นาย ยังให้การปฏิเสธ ซึ่งนายดาบตำรวจ อ้างว่าไม่มีเจตนาใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายปัญญา ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ชุดคณะกรรมการสอบสวนเชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอชี้ได้ว่า ตำรวจนายดังกล่าวใช้ถุงคลุมลุงเปี๊ยกจริง ตำรวจทั้ง 2 นาย จะมีความผิดตาม หรือพ.ร บ. อุ้มหายหรือไม่ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 เข้าสอบปากคำนายปัญญา เพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้นายปัญญา อยู่ระหว่างการรักษาโรคสุราเรื้อรัง ต้องรอประมาณ 7 วัน นับจากวันเข้ารับการรักษาพนักงานสอบสวนจึงจะเข้าสอบปากคำนายปัญญาได้ หากพบหลักฐานว่าตำรวจกระทำความผิดจริงก็จะเอาผิดทางวินัยและอาญา สำหรับคดีความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน และเกี่ยวข้องกับคดีที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม รวมแล้ว 7 คดี ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ในขณะนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ฆาตกรรมป้าบัวผัน ที่มีจำนวน 5 คน และกลุ่มตังค์ไม่ออกที่มีจำนวน 12 คน เมื่อตรวจสอบย้อนหลังทั้ง 7 คดีที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ทั้งคดีทำร้ายร่างกาย คดีล่วงละเมิดทางเพศ และคดีร่วมกันทำร้ายทรัพย์สินผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย โดยพบว่า 3 ใน 5 ในคดีฆาตกรรมเป้าบัวผัน ร่วมกันก่อเหตุกับกลุ่มตังไม่ออกด้วย ทุกคดีพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดทั้งหมด นอกจาก 7 คดี ที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วพล.ต.ท.สมประสงค์ ได้สั่งให้ตรวจสอบการทำสำนวนของพนักงานสอบสวน ที่มีผู้ปกครองมาร้องขอความเป็นธรรมในการทำสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน กรณีลูกชายถูก 3 ในสมาชิกกลุ่มตังค์ไม่ออก ไล่ฟันลูกชายแล้วจับโยนลงน้ำจนเสียชีวิตเมื่อปี 2565 ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดในข้อหาเจตนาฆ่าหรือไม่ เนื่องจากสำนวนคดีของตำรวจในขณะนั้นแจ้งเพียงข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หากตรวจสอบพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องในการบิดเบือนคดีก็จะดำเนินการเอาผิดทั้งหมด สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ปกครองของกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุ ตามพ.ร.บ. คุ้มครองเด็กและเยาวชน ทางจังหวัดสระแก้วได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอาผิด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการ ร่วมกับ 5 สหวิชาชีพและพนักงานสอบสวนกองบังคับการอุทธรณ์จังหวัดสระแก้ว ร่วมพิจารณา ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนในพื้นที่อำเภออรัญประเทศและในพื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดสระแก้วเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจหลังจากนี้ เนื่องจากได้วางมาตรการป้องกันเหตุและปราบปรามกลุ่มวัยรุ่นหรือเยาวชนที่รวมตัวมั่วสุมดื่มของมึนเมาและตระเวนก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเคร่งครัด