“นาโต” เตรียมซ้อมรบครั้งใหญ่ รับมือรัสเซีย

วันที่ 19 ม.ค. 2567 เวลา 19:12 น.

องค์การนาโตเตรียมซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น หรือกว่า 25 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องทวีปยุโรปจากการรุกรานของศัตรู แม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยถึง “รัสเซีย” แต่เอกสารของนาโตระบุว่า "รัสเซีย" คือภัยคุกคามหลักต่อความมั่นคงของนาโต วันนี้ (19 ม.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) ประกาศซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่สงครามเย็นในช่วงปี 2531 ภายใต้ชื่อ "สตีดแฟส ดีเฟนเดอร์ 2024" (Steadfast Defender 2024) โดยจะมีทหารกว่า 90,000 นาย เข้าร่วมการซ้อมรบ พร้อมด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินกว่า 50 ลำ, เครื่องบินรบอีกมากกว่า 80 ลำ, เฮลิคอปเตอร์ และโดรนอย่างน้อย 1,100 ลำ นอกจากนี้ ยังมีรถถังอีก 133 คัน และยานสายพานหุ้มเกราะอีก 533 คัน ที่จะถูกนำมาใช้ในการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกัน จะมีการจำลองสถานการณ์ความขัดแย้งเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดขึ้นจริง ซึ่งการซ้อมรบครั้งใหญ่นี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าไปจนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม การซ้อมรบที่จะเกิดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบศักยภาพทางทหารของประเทศสมาชิก โดยเฉพาะในด้านการเสริมกำลังพลจากประเทศสมาชิก ทั้งในอเมริกาเหนือและบริเวณอื่น ๆ เพื่อการปกป้องทวีปยุโรปจากการรุกรานของศัตรู แม้ว่านาโตจะไม่ได้เอ่ยถึงรัสเซียโดยตรง แต่เอกสารทางยุทธศาสตร์ระดับสูงของนาโตระบุไว้ชัดเจนว่า "รัสเซีย" คือภัยคุกคามหลักต่อความมั่นคงของนาโต ซึ่งการซ้อมรบนี้ยังถือว่าเป็นไปตามแผนระดับภูมิภาคของนาโตที่ประเทศพันธมิตรได้จัดทำร่วมกันในรอบหลายทศวรรษ โดยในแผนการดังกล่าวยังมีการระบุรายละเอียดว่าจะตอบสนองต่อการโจมตีของรัสเซียอย่างไรด้วย ทั้งนี้ มีการกำหนดสถานที่สำหรับการซ้อมรบไว้ คือ ประเทศในแถบบอลติก ที่มีความเสี่ยงจะถูกรัสเซียรุกรานมากที่สุด อีกทั้งยังได้กำหนดให้เยอรมนีเป็นศูนย์กลางสำหรับการเสริมกำลังพล