เร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เหยื่อพลุระเบิด ส่งให้ญาติ
วันที่ 19 ม.ค. 2567 เวลา 11:22 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปติดตามความคืบหน้า เหตุโรงงานพลุระเบิด ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ผู้เสียชีวิต ได้แล้ว 15 คน ส่งมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว 8 คน ส่วนที่จุดเกิดเหตุยังคงปิดกั้นไว้เพื่อหาหลักฐานและสารเคมีตกค้าง พร้อมเตรียมทำพิธีเชิญดวงเย็นวันนี้ ล่าสุดเป็นอย่างไร คุณศิรัณพร มูลอุทก รายงานสดจากวัดโรงช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ความเคลื่อนไหวที่วัดโรงช้างวันนี้ ซึ่งเป็นที่ 2 ของการเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์ร่างผู้เสียชีวิต ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งในการพิสูจน์เอกลักษณ์ ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 7 คน รวมกับเมื่อวาน พิสูจน์ได้ 8 ศพ ที่ รวมเป็น 15 คนซึ่งเมื่อวานได้มอบร่างผู้เสียชีวิต ให้กับญาติ ครอบครัว นำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว 8 ศพ ส่วน 7 ศพ ตอนนี้ก็เริ่มทยอยรับศพเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้วเช่นกัน ขณะที่ ครอบครัว ที่ยังไม่สามารถรับร่างของผู้เสียชีวิต เพราะเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ ตอนนี้คนในครอบครัวรออย่างมีความหวัง อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์ให้แล้วเสร็จเร็ว ๆ แต่ก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ วัดโรงช้าง เพื่อมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท พร้อมกับพูดคุยให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวง และเจ้าหน้าที่ พม. ทั้งในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียงลงพื้นที่ เพื่อดูแลเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเยียวยาด้าน สภาพจิตใจ ในส่วนมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา จะได้มอบเงินให้กับ 17 ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 23 คน เพราะบางครัวเรือนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งคน โดยจะมอบให้ครัวเรือนละ 20,000 บาท และจากข้อมูลเบื้องต้น มีเด็กเยาวชนที่อยู่ในวัยศึกษาซึ่งสูญเสียทั้งพ่อและแม่อยู่ประมาณ 4 คน ทางมูลนิธิจะช่วยสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างน้อยถึงระดับปริญญาตรี และในเวลา 16:00 น. ทางที่ปรึกษาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พูดคุยกับผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในการเตรียมทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ของผู้เสียชีวิต บริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงมีการประสานติดตั้งไฟส่องสว่าง เพราะเมื่อคืนบริเวณนั้นไฟดับ ทำให้จนถึงตอนนี้พิสูจน์ทราบได้แล้ว 15 คน จากทั้งหมด 23 คน คาดว่าภายในวันนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ได้ครบทั้งหมด