นะหน้าทองหลบไป มิติใหม่ลงนะที่ก้น-อวัยวะเพศ
วันที่ 12 ม.ค. 2567 เวลา 07:07 น.
สนามข่าว 7 สี - สายมูไม่แผ่วจริง ๆ เมื่อมีมิติใหม่แห่งวงการมูเตลู ที่โซเชียลแห่แชร์ "ลงนะที่ก้น และ ที่อวัยวะเพศ" ผู้ที่เข้าทำพิธีต้องหันก้น หรือ อวัยวะเพศ ให้อาจารย์ลงแผ่นทอง ลงคาถา เชื่อว่าเสริมสิริมงคล แต่พฤติกรรมเช่นนี้ก็มีคำเตือนเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และโรคฝีดาษลิงได้ด้วย นะหน้าทองหลบไป มิติใหม่ลงนะที่ก้น-อวัยวะเพศ ก็เป็นพฤติกรรมของอาจารย์ขมังเวทคนหนึ่ง ที่เปิดรับทำพิธีกรรมลง "นะที่ก้น" ตอนแรกก็จะนำทองคำเปลวแปะที่ก้น แล้วใช้มือเจิม ระหว่างนั้นก็ท่อง ๆ คาถา เป่า 3 ครั้ง แล้วก็ลงลิ้นให้ด้วย ซึ่งพิธีนี้เกิดขึ้นที่ จังหวัดสุรินทร์ จนชาวเน็ตพากันทั้งแชร์และคอมเมนต์บอก "นะหน้าทอง" ต้องหลบไป เมื่อเจอ "ลงนะที่ก้น" ก็อึ้งไปตาม ๆ กัน ที่สำคัญ ชาวเน็ตยังขุดคุ้ยจนเจอจุดพีกเพิ่มกว่าการลงนะที่ก้น คือ ลงนะที่อวัยวะเพศชาย หรือเรียกว่า การเลี่ยมทอง เพื่อให้น่าดึงดูดคนรักคนหลงด้วย ทีมข่าวสอบถามอาจารย์จอมขมังเวทชาวสุรินทร์คนนี้ บอกว่า ฝึกฝนวิชาอาคมจากตำราของไทยมานานกว่า 10 ปี เริ่มลงคาถาอาคม เสริมดวงให้คนรักคนหลงมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ตอนนี้อายุ 35 ปีแล้ว เคยลงนะมาหมดทั้งร่างกาย แต่ยุคหลัง ๆ สังคมเปลี่ยนไป หลายคนอยากให้ลงบริเวณของลับ ซึ่งก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง พร้อมเปิดผ้าให้ลงคาถาด้วยความสมัครใจ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เผย ลงนะที่ก้น-อวัยวะเพศ เป็นอวิชชา ไม่มีสอนในหลักพุทธศาสนา ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพระเกจิที่คร่ำหวอดในวงการของขลัง บอกว่า การลงนะมิติใหม่ เป็นอวิชชา หรือ สายดำ ที่สำคัญครูบาอาจารย์ หรือแม้แต่ในตำรา ก็ไม่มีการสอนให้ทำในลักษณะดังกล่าวตามหลักพุทธศาสนา จึงไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อจนเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แพทย์เตือน ลงนะที่ก้น-อวัยวะเพศ เสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์และฝีดาษลิง มาที่มุมการทำพิธีที่มีสัมผัสแบบ "ลงลิ้น" ให้กับผู้มาลงนะทั้งที่ก้น หรือ อวัยวะเพศ จริง ๆ ก็ล้วนแต่เสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่โรคฝีดาษลิง ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้หากไม่ใช่คู่นอนประจำ พศ. เผยไม่มีอำนาจเตือน-จับกุม อาจารย์ทำพิธี ลงนะที่ก้น-อวัยวะเพศ ส่วนมิติการกำกับดูแลไม่ให้เกิดพิธีลงนะไม่เหมาะสม นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล สำนักพุทธฯ ไม่มีอำนาจตักเตือน จับกุม และดำเนินคดี ซึ่งถ้าใครได้รับผลกระทบต้องแจ้งความเอาเอง ที่สำคัญขอเตือนถ้าเป็นพระสงฆ์ เปิดสำนักทำพิธีกรรมเช่นนี้ ตามมติมหาเถรสมาคมถือว่ามีความผิด ต้องถูกดำเนินการตามพระธรรมวินัยด้วย ขอบคุณภาพจาก : Facebook อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6