จตุพรฟาดท้าทายประชาชนยื่งพังเร็ว กมธ.ขอตรวจชั้น 14 ให้ได้แค่ชั้น 6
วันที่ 11 ม.ค. 2567 เวลา 08:41 น.
จตุพรฟาดท้าทาย ปชช. ผสมปมดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลยิ่งพังเร็ว กมธ.ขอตรวจชั้น 14 ให้ได้แค่ชั้น 6 ย้ำ กมธ.ไปตรวจว่านักโทษป่วยจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ เป็นคนละเรื่องกับการไปเยี่ยมนักโทษที่มีสิทธิไม่ให้ใครมาเยี่ยมก็ได้ ถ้าป่วยจริงไม่มีคนไทยคนไหนใจดำ ทักษิณติดคุก วานนี้ (10 ม.ค.67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ในรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่าสถานการณ์ของนักโทษชั้น 14 จะเริ่มเป็นปัญหาบานปลายนับแต่วันที่ 11 ม.ค. 67 เพราะรัฐบาลพยายามปกปิดความจริงของนักโทษอภิสิทธิ์ชนที่ไม่ยอมติดคุกสักวัน เมื่อผสมกับกรณีดิจิทัลวอลเล็ต ยิ่งจะทำให้รัฐบาลพังได้ง่ายขึ้น กรณี รพ.ตำรวจให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจของสภาไปตรวจได้แค่ชั้น 6 อาคารศรียานนท์ เรื่องราวเหล่านี้ผิดกับกรณีไปเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำว่าถ้าผู้ต้องขังไม่ยินยอม ไม่สามารถไปเยี่ยมได้ แต่ กมธ.ไปตรวจว่านักโทษชั้น 14 ป่วยจริงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการไปเยี่ยมนักโทษที่มีสิทธิไม่ให้ใครมาเยี่ยมก็ได้ “ คณะกรรมการราชทัณฑ์ อยากจะทำอะไรก็ให้เต็มที่เลย และเรื่องง่ายที่สุดคือพูดความจริง ทั้ง รพ.ตำรวจและกรมราชทัณฑ์ต้องทำความจริงให้ปรากฎ และทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาทุกอย่างจะไม่เป็นปัญหาเลย เมื่อ กมธ.ตำรวจไปตรวจสอบ รพ.ตำรวจ แต่กลับให้แค่ชั้น 6 และเป็นคนละอาคารอีก หมายความว่า ต้องการท้าทายอารมณ์ของประชาชนหรือ ถ้าป่วยเจ็บไข้จริงไม่มีคนไทยคนไหนใจดำ อีกอย่างยิ่งคนในครอบครัวป่วย ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถไปเริงร่าที่ไหนได้เลย ต้องเฝ้าทุกวัน และยิ่งติดคุกแล้วป่วยด้วยยิ่งต้องไปเฝ้าทุกวัน" นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้คำถามเริ่มดังมากขึ้น โดยสงสัยว่าทักษิณป่วยจริงหรือไม่ และอยู่ รพ.ตำรวจจริงหรือไม่ ดังนั้น กมธ.ตำรวจจึงต้องไปพิสูจน์ทราบเพื่ออธิบายประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว หากไม่มีอะไรผิดธรรมชาติต้องมีคนไปเยี่ยมตามปกติ แล้วจะมีอะไรเป็นความลับเปิดเผยไม่ได้ กรณีฝ่ายกองเชียร์ทักษิณพยายามปกป้องว่า ไม่ได้ทำผิด นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อไม่ผิดแล้วถวายฎีกาอภัยโทษและเขียนว่าสำนึกผิดต่อพระมหากษัตริย์จึงได้ให้ลดโทษ จึงแสดงถึงการโกหกชัดเจน ดังนั้น ถ้าเป็นนักต่อสู้จริง เมื่อไม่ผิดก็ต้องไม่รับผิด และพร้อมติดคุกในคดีทุจริตที่มีโทษจำคุกเหมือนคนอื่น ซึ่งจะได้รับความชมเชยอย่างสง่างามยิ่ง ส่วนรัฐบาลบอกว่า คนพยายามหาเรื่องล้มรัฐบาล นายจตุพร กล่าวว่า หากไม่มีเรื่องทักษิณชั้น 14 แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาเรื่องล้มรัฐบาลเลย เพราะอย่างไรรัฐบาลก็ล้มอยู่แล้ว ทั้งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตยังกล้าไปต่อหรือไม่ อีกอย่างรัฐบาลพยายามนั่งรอวิกฤตให้เกิดขึ้นเพื่อเสนอกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาแจกประชาชนคนละหมื่นบาทยิ่งจะเป็นชนวนทำให้ปัญหาล้มรัฐบาลบานปลายไปกันใหญ่อีก “การที่รัฐบาลจะล้มหรือไม่ล้มก็มาจาก 2 เรื่องคือ กรณีนักโทษชั้น 14 ถ้าทำไม่ถูกต้องจะพากันพังทั้งรัฐบาล และเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตกับเงินกู้ถ้าเชื่อว่าทำได้จริงก็ลงมือทำเลย ก็จะได้วัดกัน ดังนั้น อย่ามากล่าวอ้างว่า ใครที่ออกมาเคลื่อนไหวชั้น 14 เพราะต้องการล้มรัฐบาล” ข้อความตอนหนึ่ง นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้คนไทยต้องการความยุติธรรม ต้องการมาตรฐานเดียวกันจริงๆ และชิงชังสองมาตรฐานที่ได้ต่อสู้กันมา แต่วันนี้กลับไปทำเสียเอง กระแสอารมณ์ประชาชนที่ผุดขึ้นมาแต่ละครั้ง เป็นอารมณ์ร่วมและความสะเทือนใจกับความอยุติธรรมแบบชั้น 14 ถ้าสะสมกันมากเข้าคนจะออกมาลงถนน หรือคนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการต้องคำพิพากษาให้ติดคุก ได้รับโอกาสให้อภัยลดโทษจาก 8 ปีเหลือหนึ่งปี แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอคติ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องหลักของบ้านเมือง และเรื่องนี้จะกลายเป็นชนวนของทุกสิ่งอย่าง เพราะถ้าคนรับไม่ได้ แล้วมีเรื่องเงินดิจิทัลเข้ามาบวกอีก ก็จะรับมือกันไม่อยู่ รัฐบาลยิ่งพังกันเร็วขึ้นไปอีก” นายจตุพร กล่าว