“สมุทรปราการ” ปลอดภัย “กรมควบคุมมลพิษ” ไม่พบสารเคมีตกค้าง จากเหตุรถบรรทุกสารเคมีไฟไหม้

วันที่ 5 ม.ค. 2567 เวลา 15:06 น.

“กรมควบคุมมลพิษ” ตรวจสอบแล้ว ไม่พบสารเคมีตกค้าง จากเหตุรถบรรทุกสารเคมีไฟไหม้ เมื่อคืนที่ผ่านมา (4ม.ค.) จากข้อห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง กรณีเกิดเหตุรถกระบะของบริษัท บริษัท ทีซีไอเอส อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บรรทุกสารเคมีชื่อ Aluminum Phosphide ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูผลิตผลทางการเกษตร เช่น มอด ปลวก บรรจุในถัง 200 ลิตร เกิดการรั่วไหลและเกิดควันบริเวณถนน ซ.พรสว่าง 7 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อคืนที่ผ่านมา (4ม.ค.67) ล่าสุด (5ม.ค.67) นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งให้ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงและด้านท้ายลม อพยพในช่วงเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 20.00 น. โดยพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีข้อสั่งการให้  คพ. ดำเนินการตรวจสอบผลกระทบในพื้นที่เกิดเหตุ และ ให้ข้อแนะนำประชาชนด้านสุขภาพโดยเร่งด่วน และ จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อได้รับแจ้งเหตุ จนกระทั่งเช้าวันนี้ คพ.ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ประชาชนบริเวณที่เกิดเหตุสามารถกลับเข้าสู่ที่พักและสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติแล้ว โดยเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ได้นำรถฉีดน้ำทำความสะอาดพื้นผิวจราจรในซอยดังกล่าว ปัจจุบันประชาชนสามารถสัญจรได้ปกติ ส่วนการจัดการสารเคมีที่หกรั่วไหล สามารถเก็บกู้ได้แล้วเสร็จ ประมาณเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2567 โดยขนย้ายไปจัดเก็บที่โรงงานเจ้าของสารเคมี เพื่อส่งไปกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เป็นสารเคมีชื่อ Aluminum Phosphide บรรจุในถัง 200 ลิตร ซึ่งมีประมาณ 100 ลิตร และ จากการตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยของสารเคมีตกค้างในพื้นผิวถนน และ ท่อระบายน้ำ ไม่พบกลิ่นสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุและชุมชนใกล้เคียง สำหรับผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุ และ บ้านเรือนประชาชนด้านท้ายลม (ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้) ในระยะ 50 เมตร และ 200 เมตร ไม่พบสารฟอสฟีน และ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า รวมทั้งเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว ส่วนประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายลม  พบว่า ไม่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพแต่อย่างใด เนื่องจากมีการแจ้งเตือนให้อพยพ และ ปิดประตูหน้าต่างในช่วงเกิดเหตุ ข้อมูลเพิ่มเติม กรณีเกิดเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล คพ. มีข้อแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัว ดังนี้ - ควรอพยพประชาชนไปอยู่ที่เหนือลม อยู่ในอาคารที่ปกปิดมิดชิด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีความเสี่ยง - ควรสวมใส่หน้ากากกรองชนิดคาร์บอน (Carbon Mask) เมื่อสัมผัสกับสารให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนทิ้ง และชำระร่างกาย - หากมีความผิดปกติควรรีบพบแพทย์ ทั้งนี้  คพ.จะกำกับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการครอบครอง และ ใช้สารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามกฎหมาย ว่าด้วยวัตถุอันตรายอย่างเคร่งครัดต่อไป