ไขปมคนจนหมดสิทธิเป็นเจ้าของบ้านในฝัน หลังกำลังซื้อลดลง

วันที่ 4 ม.ค. 2567 เวลา 07:13 น.

สนามข่าว 7 สี - คุณผู้ชมเชื่อหรือไม่ว่า มีตัวเลขออกมาว่า คนกรุงเทพและปริมณฑล โดยเฉพาะคนฐานล่างหมดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยกันแล้ว ราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท ขายไม่ออกเหลือเพียบ จนมูลค่าเหลือขายพุ่งไปสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท เหตุใดเป็นเช่นนี้ มีทางออกหรือไม่ เดี๋ยวดูทีละประเด็น ก่อนอื่นไปฟังปมเหตุที่ทำให้คนพลาดหวังเป็นเจ้าของบ้านหลังงามในฝันกันก่อน ไขปมคนจนหมดสิทธิเป็นเจ้าของบ้านในฝัน หลังกำลังซื้อลดลง เป็นเสียงจากผู้มีประสบการณ์ยื่นกู้ขอสินเชื่อกับธนาคาร เพื่อหวังซื้อที่พักอาศัย แต่ต้องผิดหวัง เหตุประวัติการเงินไม่แน่นอน เพราะทำอาชีพอิสระ ถือเป็นปัญหาคลาสสิกที่เจอบ่อย ๆ แม้บางคนมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่าคนมีเงินเดือนประจำ เมื่อดูตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีที่ผ่านมาซบเซาหนักจริง ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยไตรมาสที่ 3 (2566) บ้านจัดสรรและอาคารชุด ยอดขายติดลบ 9.7 เปอร์เซ็นต์ (-9.7%) โดยกลุ่มที่ยอดขายลดมากที่สุด อยู่ที่ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายลดลงติดลบ 17.1 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหลือขายเกือบ 2 ล้านหน่วย (195,059 หน่วย) คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท (1.014 ล้านล้านบาท) แม้แต่อาคารชุด ราคาตั้งแต่ 2 ล้านถึง 5 ล้านบาท รวมทั้ง ทาวน์เฮ้าส์ ยอดก็ลดลง ยกเว้นบ้านเดี่ยวราคามากกว่า 10 ล้านบาท ขายได้แต่ไม่มาก เสนอแก้กฎหมายลดขนาดที่ดิน-ลดดอกเบี้ยเงินกู้เฉพาะที่อยู่อาศัยให้ต่ำสุด แก้ปัญหาประชาชนไม่มีเงินซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนมาตรการแก้ไขก็มีข้อเสนอทั้งแก้ไขกฎหมายจัดสรรที่ดินใหม่, การปรับลดดอกเบี้ยเฉพาะเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชนมีกำลังซื้อบ้านได้จริง กลางเดือนมกราคมนี้ (2567) ต้องวัดใจนายกฯ จะรับพิจารณาแก้กฎหมายปมข้อกําหนดการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยหรือไม่ อีกทั้งการลดดอกเบี้ยเฉพาะที่อยู่อาศัย พอมีลุ้นหรือเปล่า เพื่อให้คนฐานรากมีโอกาสคว้าบ้านในฝันมาครอบครองได้จริง  ส่วนมาตรการลดค่าโอน ค่าจำนองที่อยู่อาศัย ก็ต่อไปอีกจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ค่าโอนจาก 2% เหลือ 1% ส่วนค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01%