ดีเอสไอแจงไม่เคยมีมติคืนของกลางคดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่

วันที่ 29 ธ.ค. 2566 เวลา 17:20 น.

คดีทุจริตชุมนุมสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ ของกลาง 16 รายการ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาคลองท่อม ถูกอายัดดำเนินการตามมาตรการฟอกเงิน ดีเอสไอแจงไม่เคยมีมติให้คืนของกลาง วันนี้ (29 ธ.ค.66) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้แจงกรณีประชาชนได้ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) กับพวก โดยกล่าวหาว่าได้เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการใช้ดุลพินิจมิชอบ สั่งให้คืนทรัพย์สินของกลางในคดีพิเศษที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ทั้งหมดให้กลุ่มผู้กระทำความผิดครอบครอง และทำให้ได้ใช้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มต่อเนื่องจนเครื่องจักรสึกหรอ เป็นเหตุให้ชุมนุมสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ ได้รับความเสียหาย ดีเอสไอตรวจสอบแล้วพบว่า คดีดังกล่าวมีรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน มีการแต่งตั้งพนักงานอัยการระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกร่วมเป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษ เพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการดำเนินคดี รวมทั้งการแสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐาน ตามประเด็นที่ร้องเรียนนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มิมติเห็นชอบให้อายัดสิทธิของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องตาม "สัญญาจะซื้อจะขาย" ระหว่าง สหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ และบริษัทกระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด ฉบับลงวันที่ 23 มี.ค.64 จำนวน 16 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินรวมประกอบกันเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สาขาคลองท่อม ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการร้องเรียนกล่าวหาไว้ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้ระหว่างการอายัดของกลางไว้ตรวจสอบนี้ ดีเอสไอมีข้อกำหนด ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินหรือดำเนินการอื่นใดเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางนิติกรรม และปัจจุบันทรัพย์สินของกลางดังกล่าวยังคงมีข้อพิพาททางแพ่งและโต้แย้งในเรื่องสัญญาจะซื้อจะขายกันที่อยู่ในการพิจารณาของศาลจังหวัดกระบี่ รวมทั้งในคดีดังกล่าวมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 22 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ. 2542 มาตรา 22 (1) มาตรา 132 มาตรา 133/5 ประกอบมาตรา 51/1 มาตรา 51/2 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ความผิดดังกล่าวถือเป็น "ความผิดมูลฐาน" ตามกฎหมายฟอกเงิน จึงมีการรายงานการอายัดรัพย์สินดังกล่าวและประสานขอให้ สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตามกฎหมายอีกทางหนึ่ง ดีเอสไอ ขอชี้แจงให้ทราบว่า สิ่งของดังกล่าวทั้ง 16 รายการ ยังถือว่าเป็นของกลางในคดีพิเศษจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ยังมิได้มีการเพิกถอนการยึด/อายัดทรัพย์สินของกลางตามที่มีการร้องเรียนขอให้ตรวจสอบแต่ประการใด