เคาะป้องกันใช้อาวุธปืน ควบคู่แก้หนี้นอกระบบ
วันที่ 29 ธ.ค. 2566 เวลา 11:43 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - กระทรวงมหาดไทย ออกมาตรการคุมเข้มเรื่องอาวุธปืน รวมไปถึงการเดินทางไปฉลองเทศกาลปีใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงมาตรการกวดขันเรื่องของอาวุธปืน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เช่น การยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลอง ทั้งในเขตชุมชน ในวัด งานบวช หรืองานแต่งงาน ซึ่งอาจทำให้กระสุนตกลงมาถูกศีรษะชาวบ้านได้ ขอย้ำว่าเป็นเรื่องต้องห้ามเด็ดขาด และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเรื่องของอาวุธปืนขณะนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ห้ามออกใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืน และไม่สามารถพกพาอาวุธปืนออกไปนอกเคหะสถานได้ ส่วนการเลี้ยงฉลอง ไม่ว่าจะเป็นการดื่ม ก็ต้องพยายามไม่ใช้รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ หากไปกินเลี้ยงก็ขอให้ยึดหลักการเดิมคือ ดื่มไม่ขับ ไม่ใช่แค่เมาไม่ขับ และต้องกินอย่างมีสติ หาเพื่อนที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นคนขับแทน สำหรับตัวข้าราชการเอง ก็ยิ่งต้องคุมเข้มกว่า หลังปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เซ็นออกหนังสือด่วนไปยังผู้ว่าราชจังหวัดทุกจังหวัด ให้เข้มงวดตรวจสอบข้าราชการ เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หากพบใครมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับ ก็ให้ลงโทษสถานหนักอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานการลงโทษทางวินัย กฎหมายว่าด้วยข้าราชพลเรือน เช่นเดียวกับข้าราชการคนใดที่มีพฤติกรรมไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก็ต้องจัดการให้เด็ดขาด ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ กระทรวงมหาดไทย ยังคงเดินหน้าเต็มสูบ ประชาชนควรมีชีวิตที่ปลอดภัยจากการไม่ถูกทวงหนี้ ซึ่งขณะนี้กระบวนการไกล่เกลี่ยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 4,077 คน ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 880 คน มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ยประมาณ 236 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ยเหลือประมาณ 119 ล้านบาท มูลหนี้ลดลงประมาณ 116 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุด ก็คือ จังหวัดนครสวรรค์ สำหรับยอดการลงทะเบียนหนี้นอกระบบครบ 28 วัน ขณะนี้มีมูลหนี้รวมแล้วประมาณ 7,219 ล้านบาท มีประชาชนลงทะเบียน 112,326 คน, มีเจ้าหนี้ 82,942 คน