กู้ภัยผวา ! แฉ รพ.ปัดรักษาคนไข้ต่างชาติจนเสียชีวิต กลับถูกขู่ฆ่า

วันที่ 27 ธ.ค. 2566 เวลา 16:12 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กรณีที่มีกู้ภัยช่วยคนบาดเจ็บต่างชาติไปส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่โรงพยาบาลปฏิเสธ จนทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตระหว่างนำไปส่งโรงพยาบาลอีกแห่ง เหตุเกิดตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ซึ่งตอนนั้นกู้ภัยออกมาโพสต์เรื่องราวจนเป็นข่าว ล่าสุดมีบุคคลปริศนาแอดไลน์เพิ่มเพื่อนของกู้ภัยและส่งข้อความข่มขู่ ซึ่งในข้อความที่ข่มขู่ มีชื่อโรงพยาบาลดังกล่าวอยู่ด้วย    2 ข้อความที่ส่งมาข่มขู่ทางไลน์ ข้อความแรกว่า "เฮ้ย พาดพิงถึง...(เป็นชื่อของโรงพยาบาล) หรอ ระวังโดนเก็บ" ส่วนข้อความที่ 2 คือ "อย่าห้าว เด็วได้กินข้าวผ่านธูป" คุณกิตติพงษ์ พิมพูล อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู คือกู้ภัยคนที่โดนส่งข้อความมาข่มขู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม คุณกิตติพงษ์ เป็นกู้ภัยที่เคยโพสต์เปิดเผยเรื่องราว ช่วยนำผู้บาดเจ็บชาวไต้หวันที่ถูกรถชนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ถูกปฏิเสธการรักษา โดยโรงพยาบาลอ้างว่าเป็นชาวต่างชาติ ไม่รู้จะเบิกค่ารักษาอย่างไร จนในที่สุด ทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิต ระหว่างนำส่งโรงพยาบาลอีกแห่ง คุณกิตติพงษ์ เล่าถึงช่วงวันเวลาที่ถูกส่งข้อความข่มขู่ว่า เมื่อคืนนี้ เวลา 20.38 น. มีบุคคลปริศนา แอดไลน์เพิ่มเพื่อนเข้ามา เพราะตนเองตั้งค่าเพิ่มเพื่อนโดยเบอรโทรศัพท์ แต่ยังไม่รับเป็นเพื่อน ซึ่งบัญชีไลน์ดังกล่าวใช้ชื่อว่า "474boing" จากนั้นส่งข้อความแรกมาข่มขู่ แล้วเว้นระยะห่าง 3 นาที ก่อนจะส่งข้อความที่ 2 มาอีก ตนจึงส่งข้อความกลับไป 4 ข้อความ คือ ก็มาดิครับ มาถึงบ้านเลยก็ได้นะ เอาโลเคชันไหม และ เอาตัวจริงมาเลยดีกว่า จากนั้นเวลา 21.00 น. บุคคลปริศนาดังกล่าว ลบบัญชีไลน์นี้ไปเลย หลังถูกข่มขู่ คุณกิตติพงษ์ ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.คลองตัน พร้อมกับย้อนคิดว่า มีใครบ้างในโรงพยาบาลเอกชนแห่งนั้น ที่มีเบอร์โทรศัพท์เขาบ้าง ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่ง ที่เคยประสานงานผ่านเพื่อน ๆ เขา เพื่อขอติดต่อคุยทำความเข้าใจ ตอนที่เขาเคยโพสต์ครั้งแรกเหตุการณ์โรงพยาบาลไม่รักรักษาผู้บาดเจ็บชาวไต้หวัน โดยตอนนั้นเขาให้เบอร์โทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนนั้นไว้ และเมื่อมีการแอดไลน์เพิ่มเพื่อนโดยใช้เบอร์โทรศัพท์มาข่มขู่ อีกทั้งในข้อความก็อ้างอิงถึงโรงพยาบาลดังกล่าว ทำให้เขาสงสัยว่า บุคคลปริศนาอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนรายนั้น ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน สอบถามไปยังโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคลากรของโรงพยาบาลหรือไม่ เพราะมีการอ้างชื่อโรงพยาบาลด้วย แต่ว่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแจ้งว่า ถ้าได้รายละเอียดอย่างไร จะติดต่อกลับผู้สื่อข่าวเพื่อให้ข้อมูลต่อไป ส่วนกรณีที่โรงพยาบาลเคยไม่รับรักษาผู้บาดเจ็บชาวไต้หวัน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลอีกแห่งนั้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโรงพยาบาลดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าเป็นการปฏิเสธคนไข้ในภาวะวิกฤตหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาว่าผิด มีโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท โดยตอนนี้อยู่ระหว่างรอบทสรุปว่าเป็นอย่างไร