บุกทลายบ่อนใหญ่ อ.ท่ามะกา รวบนักพนันกว่า 60 คน

วันที่ 23 ธ.ค. 2566 เวลา 17:56 น.

เปิดนาทีบุกจับ "บ่อนใหญ่" ใน ต.หวายเหนียว  อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี  ดัดแปลงโรงสีข้าว เล่นพนัน 24 ชั่วโมง รวบผีพนัน กว่า 60 คน เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (22 ธ.ค. 66) นายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานบูรณาการภารกิจพิเศษ (ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง) สนธิกำลังร่วมกับ นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา พ.ต.อ.นัฐพงษ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผกก.สภ.ท่ามะกา พ.ต.ท.อมร แสงจันทร์ สว.สืบสวน สภ.ท่ามะกา ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา กอ.รมน.จว.กาญจนบุรี จนท.การข่าว กกล.สุรสีห์ รวมกำลังกว่า 50 นาย ลงพื้นที่บุกเข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนัน บ่อนการพนัน (กำถั่ว) ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของตลาดหวายเหนียวเก่าซึ่งอยู่ใน ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ภายในโรงสีข้าวขนาดใหญ่ โดยนำอาคารเก่าของโรงสีข้าวมาดัดแปลงเป็นอาคารที่ให้เล่นการพนัน ลักษณะเป็นบ่อนเปิด ไม่มีประตูเปิด-ปิด แต่มีรั้วรอบขอบชิด โดยใช้ต้นไม้และสแลนสีดำล้อมรอบพื้นที่ ขนาดพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ บ่อนแห่งนี้จะเปิดให้เล่นการพนันประเภท ถั่ว หรือ กำถั่ว โดยดัดแปลงเอาอุปกรณ์ไฮโลมาแทนการใช้ถั่วแบบเดิม เงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านต่อวัน สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนภายใน จ.กาญจนบุรี ว่า มีการเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่ โดยมีนักพนันนับร้อยคนต่อวัน ซึ่งทำให้ครอบครัวของผู้ร้องเรียนและชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงไม่ทำมาหากิน นำเงินที่ได้มาไปเล่นจนเป็นหนี้สินได้รับความเดือดร้อน จึงขอให้กระทรวงมหาดไทยช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ภายหลังการเข้าตรวจค้นสามารถจับกุมนักพนันและเจ้ามือ จำนวนรวมกว่า 60 คน พร้อมอุปกรณ์การเล่นอีกหลายรายการ เงินสดกว่า 6 แสนบาท และชิปสำหรับการเล่นพนันหลายล้านบาท ฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ประสานพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา ทำการอายัดรถยนต์ของนักพนันที่จอดอยู่ภายในบ่อน ซึ่งตรวจพบอาวุธปืน และเงินสดจำนวนมาก พร้อมอุปกรณ์การเล่นพนัน ซึ่งฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ทำการยึดไว้ตรวจสอบ จากนั้นนำตัวนักพนันทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอท่ามะกา ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนัน และส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ดำเนินคดีต่อไป