ถกไม่เท : จนท.ที่ดินรังวัดซ้ำ ปมรังวัดที่ดินผิดตอนซื้อขาย

วันที่ 15 ธ.ค. 2566 เวลา 16:35 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - จากกรณีที่ 2 สามีภรรยา ซื้อที่ดินแล้วสร้างบ้าน แต่ต่อมาขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมารังวัดให้ใหม่ พบว่า ที่ดินที่เคยรังวัดตอนซื้อขาย วัดผิดพลาด ทำให้ไปกินพื้นที่เพื่อนบ้านไปกว่า 12 ตารางวา ผู้เสียหายได้มาออกรายการ ถกไม่เถียง ของเราไปวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้มีความชัดเจนแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ดินลงพื้นที่สำรวจแบบละเอียดแล้ว ผลจะเป็นยังไง ไปฟังกัน จนท.ที่ดินรังวัดซ้ำ ปมรังวัดที่ดินผิดตอนซื้อขาย นายวิภพ พลสิทธิ์ นายช่างอาวุโส ประจำสำนักงานที่ดินบางเขน กรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้เสียหาย เพื่อไปทำรังวัดใหม่ให้กับบ้านผู้เสียหาย ให้สิ้นสงสัยว่า ได้ปลูกบ้านล้ำที่ดินคนอื่นหรือไม่ โดยครั้งนี้จะวัดจากหลักเขตหมุดที่ดิน ตั้งแต่หน้าซอยเข้ามาจนถึงบ้านผู้เสียหายเลย เป็นระยะทางประมาณ 70 เมตร ได้นำอุปกรณ์สายตลับเมตรมาวัดก่อน และใช้กล้องสำรวจวัดมุมดิ่งและมุมราบมาส่องอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนแบบ 100% สรุปว่า ปลูกบ้านล้ำเขตเพื่อนบ้านจริง ๆ หลังจากนี้ได้หมดหน้าที่ขอสำนักงานเขตที่ดินแล้ว ที่เหลือทางเจ้าของที่ดิน 2 ผืนนี้ ต้องเจรากันเอง ทางด้าน นายนัทธี ทองวารี เจ้าของบ้านที่ปลุกบ้านล้ำที่ดินเพื่อนบ้าน กล่าวว่า ยอมรับการตรวจวัดทุกประการ หลังจากนี้ตนเองต้องเจรจากับเพื่อนบ้านอย่างเร่งด่วน ขอให้เพื่อนบ้านเห็นใจ ว่าตนไม่ได้มีเจตนาจะสร้างที่ดินรุกล้ำอาณาเขตไปจริง ๆ ตนเองจะขอซื้อที่ดินเพื่อนบ้าน แค่ในส่วนแค่ตัวบ้านที่ล้ำเข้าไปก็พอ เป็นเนื้อที่ไม่กี่วา ส่วนที่เหลือตนเองจะสร้างตามหลักเขตที่ดิน ตามที่เจ้าหน้าที่มาวัดให้ใหม่ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ตนเองจะทำได้คือ วิงวอนเพื่อนบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดิน ก็วอนเพื่อนบ้านเห็นใจด้วย นายนัทธี คงไม่มีเจตนาสร้างที่ล้ำไปจริง ๆ ที่ทำเพราะถูกรังวัดที่ดินเก๊หลอกมา จะให้ทางรายการเราเป็นตัวกลางเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้ก็ได้ เพียงแค่นัดวันกันให้พร้อม แล้วติดต่อมา แจ๊ส สรวีย์ ไม่ทน โร่แจ้งความ คลินิกทำจมูกพัง ช้ำโดนไล่ไปฟ้องศาล ! เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 สรวีย์ รวีรัฐฐากรณ์ หรือ แจ๊ส มิสทิฟฟานี่ปี 2009 และ คุณวา เจ้าของคลินิก ได้มาร่วมรายการ "ถกไม่เถียง" ซึ่งวันนั้น แจ๊ส ได้เล่าให้ฟังว่า เธอได้ไปศัลยกรรมแก้จมูก ซึ่งตกลงราคาได้ที่ 40,000 บาท แต่ว่าทางคลินิกขอให้คุณแจ๊สช่วยรีวิวให้ แล้วจะไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการทำครั้งนี้ มีเพียงเสียค่ายาจำนวน 2,900 บาท เท่านั้น แต่หลังจากทำเสร็จแล้ว แจ๊ส มีอาการอักเสบ บวมแดงขึ้นเรื่อย ๆ และมีหนอง แจ๊ส เลยตัดสินใจติดต่อไปที่คลินิก กระทั่งได้คุยกับหมอ หมอแนะนำให้รีบเอาซิลิโคนออกโดยด่วน และเมื่อถึงเวลาที่นัดหมายจะเข้าไปแก้ที่คลินิก ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดยาชาที่จมูกให้เธอหลายเข็มมาก ซึ่งเขาให้เหตุผลว่ามันอักเสบเยอะ เลยต้องใช้ยาชาเยอะ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาเอาซิลิโคนออกแค่ 15 นาที ซึ่งต่อมา พบว่า เจ้าหน้าที่คนที่เอาซิลิโคนออกไม่ใช่หมอ แต่เป็นพนักงานผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ทำให้เธอตกใจมาก มิหนำซ้ำจมูกของเธอแหว่ง และแกนจมูกบิดเบี้ยวหนักกว่าเดิม ในวันนั้นที่คุยกันในถกไม่เถียง คุณวา เจ้าของคลินิก ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า จะรับผิดชอบดูแลเยียวยาให้เป็นอย่างดี และจะขอกลับไปคุยกันนอกรอบ โดยในกรณีจมูกของ แจ๊ส แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินค่าใช้จ่ายในการแก้จมูกอยู่ที่ราว ๆ 780,000 บาท โดย แจ๊ส ขอไปแก้จมูกกับหมอและโรงพยาบาลอื่น เพราะไม่มั่นใจในคลินิกดังกล่าวแล้ว และขอย้ำว่าราคานี้ยังไม่รวมเงินเยียวยา และค่าขาดประโยชน์จากการทำงานต่าง ๆ หลังจบรายการ ทั้ง 2 ฝ่าย มีการไปคุยกันนอกรอบจริง ๆ โดย แจ๊ส ได้เสนอเงินเยียวยาให้แก่เจ้าของคลินิกอยู่ที่ 9 ล้านบาท มีคนแนะให้เรียกไป 40 ล้านบาทเลย โดย แจ๊ส ยืนยันว่า ราคานี้คิดตามจริง เนื่องจาก แจ๊ส มีธุรกิจทัวร์ที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ เพราะกระบวนการรักษาจมูกยาวนาน กินระยะเวลาถึง 1 ปี, การถ่ายรายการต่าง ๆ ต้องงดรับ สุดท้าย เจ้าของคลินิกได้จ่ายเงินเยียวยาให้ที่ 150,000 บาท ส่วนที่เหลือให้ แจ๊ส ไปเรียกร้องเอาจากศาล และ แจ๊ส เห็นว่า หลังจากจบรายการถกไม่เถียง ทางเจ้าของคลินิกก็ไม่ได้สนใจติดตามเรื่องราวของเธอ และมีการโพสต์ประชดเหน็บแนม จนทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวถึงเป็น แจ๊ส สุดท้าย เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้ แจ๊ส จึงตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อปกป้องความชอบธรรมของตัวเอง